Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 ธันวาคม 2568

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 15-19 ธ.ค. 68)

คะแนนเฉลี่ย
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท 

• เงินบาททำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่งครั้งใหม่ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาคและการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในปีหน้า อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาบางส่วนในช่วงกลางสัปดาห์ หลัง กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลงมาที่ระดับ 1.25% พร้อมกับมีการระบุถึงการยกระดับการติดตามการเคลื่อนไหวของเงินบาท ซึ่งแข็งค่าขึ้นตามการคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟดและปัจจัยเฉพาะของไทย นอกจากนี้ ในระหว่างสัปดาห์ ธปท. ยังส่งสัญญาณติดตามธุรกรรมที่อาจส่งผลทางตรงและทางอ้อมต่อค่าเงินบาททั้งในส่วนของธุรกรรมทองคำในรูปแบบ Paper Trade สินทรัพย์ดิจิทัล และช่องทางอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบประมาณ 4 ปีครึ่งครั้งใหม่ที่ 31.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดัน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีทิศทางชะลอลง ซึ่งทำให้ตลาดยังคงให้ความสนใจไปที่โอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยมากกว่าที่สื่อสารไว้ใน Dot Plot ในปี 2569 
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 22-26 ธ.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.30-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ท่าทีต่อสถานการณ์เงินบาทของทางการไทย ตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ตลอดจนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ข้อมูลจีดีพีและดัชนีราคา PCE/Core PCE ประจำไตรมาส 3/2568 ของสหรัฐฯ 

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย 

• ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ก่อนจะทยอยย่อตัวลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ทั้งนี้ SET Index ดีดตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สวนทางภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลง โดยหลักๆ มีปัจจัยหนุนจากความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นการเมืองในประเทศ หลังกกต.กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. 2569 ซึ่งประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นทุกกลุ่ม นำโดย เทคโนโลยีและพลังงาน อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงในเวลาต่อมาท่ามกลางแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยเฉพาะหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ตามการปรับตัวลงของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ประกอบกับขาดปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาหนุนตลาด ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงต่อหลังการประชุมกนง. โดยแม้กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แต่ก็ได้ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2569-2570 มีแนวโน้มชะลอลง ซึ่งกระตุ้นแรงขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่ม อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 
• สัปดาห์ที่ 22-26 ธ.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,240 และ 1,230 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,275 และ 1,285 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย. 2568 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของอังกฤษ ตลอดจนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น