Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 ธันวาคม 2563

Econ Digest

ส่งออกไทย ปี 64... รับศึกต่อ!

คะแนนเฉลี่ย
​ส่งออกไทยเดือนพ.ย. 2563 ส่งสัญญาณดีขึ้น หดตัวลดลงมาอยู่ที่ -3.65% YoY จากเดือนต.ค. 2563 ซึ่งหดตัวที่ -6.71% YoY และเมื่อหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธฯ การส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่ที่ -2.09% YoY 

ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย. หดตัวลดลงอยู่ที่ -2.9% YoY สินค้าประเภทรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 9 เดือน สินค้าที่เกี่ยวกับการทำงานที่บ้านและเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรในเดือนพ.ย. ก็หดตัวลดลงเช่นกันอยู่ที่ -2.4% YoY ซึ่งได้รับแรงหนุนหลักจากการส่งออกสินค้าเกษตรหลายตัวที่พลิกกลับมาเป็นบวก เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และยางพารา 

สำหรับการส่งออกของไทยในปี 2564 ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนอีกหลายอย่าง ซึ่งแม้ว่าจะมีความหวังมากขึ้นในเรื่องการพัฒนาวัคซีน แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกก็กลับมาเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มรุนแรงอีกครั้ง โดยหลายประเทศในแถบยุโรปเริ่มมีคำสั่งให้ล็อกดาวน์ ส่งผลให้ความต้องการสินค้านำเข้าลดลง อีกทั้ง การส่งออกของไทยยังได้รับแรงกดดันจากการขาดแคลนตู้สินค้า และค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันการที่ไทยเข้าไปอยู่ในบัญชี Monitoring List ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะทำให้สถานการณ์การแข็งค่าเงินบาทเป็นโจทย์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าและมีความผันผวนมากขึ้นย่อมมีผลกระทบต่อการส่งออก ทั้งนี้ ท่ามกลางปัจจัยกดดันที่กล่าวมาข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินทิศทางการส่งออกไทยปี 2564 ว่าจะขยายตัวที่ 3.0%










                                                                                                                                                ​     ขอบคุณภาพจาก  Shutterstock.com​



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest