Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 มกราคม 2565

Econ Digest

ยุคของแพง...มาตรการไหนโดนใจผู้บริโภค?

คะแนนเฉลี่ย

​      สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ Omicron มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจและกำลังซื้อของครัวเรือน  สวนทางกับค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ น้ำมันพืช พลังงานและค่าสาธารณูปโภคอย่างค่าไฟฟ้า  ซึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า คนกรุงเทพฯ ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มรายได้อื่น โดยราว 36% มองว่าค่าใช้จ่ายปรับเพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 64 ก่อนการปรับขึ้นราคาสินค้า โดยค่าครองชีพที่ทยอยปรับขึ้นส่งผลให้คนกรุงเทพฯ วางแผนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโดยเลือกใช้จ่ายสินค้าเท่าที่จำเป็น ลดหรือชะลอการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น สินค้าแฟชั่น ลดกิจกรรมสังสรรค์ รวมถึงการหันไปใช้สินค้าทดแทนที่ราคากว่า  โดยในระยะข้างหน้า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าสถานการณ์ค่าครองชีพที่ปรับขึ้นน่าจะยังไม่คลี่คลายในระยะสั้น และกว่า 50% คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะลากยาวมากกว่า 1 ปี


    สำหรับการสำรวจประเด็นความคาดหวังของคนกรุงเทพฯ ต่อมาตรการช่วยเหลือและแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น  พบว่า 3 อันดับมาตรการแรกที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเร่งด่วน คือ ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในหลายประเภทมากขึ้น (เช่น อาหารสดประเภทอื่นๆ ของใช้ในชีวิตประจำวัน และราคาพลังงาน)  เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และขยายมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา) ที่สิ้นสุดไปแล้วในเดือน ก.ย.  64  ขณะที่ในส่วนของ ภาคเอกชน ผู้บริโภคต้องการให้ผู้ประกอบการชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้า หรือลดปริมาณสินค้า (Resize) แทนการปรับขึ้นราคา และเพิ่มการจัดโปรโมชั่นกิจกรรมลดราคาสินค้าให้ถี่ขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น เช่น อาหารปรุงสำเร็จและของใช้ส่วนตัว  


      ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ภาครัฐและเอกชนยังควรเร่งมือและร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปทานขาดแคลน ให้ตรงจุด รวมถึงเพิ่มโอกาสการแข่งขันของผู้ประกอบการรายย่อยในตลาดควบคู่กันไปด้วย นอกเหนือจากการใช้มาตรการควบคุม/เฝ้าระวังโรดระบาดในสัตว์อย่างเข้มงวด และการเร่งแก้ไขปัญหาราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ภาคธุรกิจจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและสร้างโอกาสการเติบโตในระยะถัดไป เช่น ลดปริมาณหรือขนาดของสินค้าแทนการปรับขึ้นราคา การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการสต็อกสินค้า รวมถึงการนำฐานข้อมูลลูกค้า (Big data) มาช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการได้แม่นยำมากขึ้น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest