Display mode (Doesn't show in master page preview)

9 พฤศจิกายน 2565

Econ Digest

ราคาถั่วเหลืองนำเข้าของไทย ปี 65-66 ยืนสูง...กดดันการใช้ถั่วเหลือง

คะแนนเฉลี่ย

ราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกปี 2566 คาดว่าจะย่อตัวลงได้บ้างเมื่อเทียบกับปี 2565 จากปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองในปีเพาะปลูก 2022/2023 ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการขยายพื้นที่เพาะปลูกของผู้ผลิตหลักอย่าง บราซิล ปริมาณการผลิตและส่งออกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอาร์เจนตินา1 แต่ด้วยต้นทุนการผลิตในระดับสูง โดยเฉพาะราคาปุ๋ย พลังงานและค่าขนส่ง ตลอดจนผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศโลกที่แปรปรวนและความไม่แน่นอนของวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน อาจส่งผลให้ระดับราคาถั่วเหลืองโลกปรับลดลงได้จำกัด ท่ามกลางอุปสงค์ถั่วเหลืองโลกที่ยังโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจีน สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อใช้ในประเทศ ทั้งภาคอุตสาหกรรมการผลิต พลังงานทางเลือก รวมถึงการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร




  ขณะที่ไทยพึ่งพาการนำเข้าถั่วเหลืองในสัดส่วนที่สูงราว 99% ของปริมาณความต้องการใช้ในประเทศ โดยมีบราซิลเป็นแหล่งนำเข้าหลัก จึงคาดว่าราคานำเข้าถั่วเหลืองของไทยน่าจะมีทิศทางสอดรับไปกับราคาถั่วเหลืองในตลาดโลก อีกทั้งค่าเงินบาทไทยที่มีแนวโน้มผันผวนอ่อนค่า ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2565 ต่อเนื่องไปถึงปี 2566 ทิศทางราคาถั่วเหลืองนำเข้าของไทยจากโลกน่าจะยังยืนตัวสูง โดยปี 2566 ราคาถั่วเหลืองนำเข้าของไทยน่าจะอยู่ที่ 600-700 ดอลลาร์/ตัน เทียบกับปี 2565 ที่คาดว่าจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 650 ดอลลาร์/ตัน ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ความต้องการใช้ถั่วเหลืองในไทยในปี 2566 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง2  โดยเฉพาะความต้องการหลักจากธุรกิจแปรรูปถั่วเหลืองอย่าง น้ำมันพืชจากถั่วเหลือง เพื่อป้อนความต้องการลูกค้าปลายน้ำ ทั้งจากภาคครัวเรือนและธุรกิจ Food Service ที่ทยอยฟื้นตัวทั้งกลุ่มร้านอาหาร/ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงความต้องการจากตลาดส่งออกน้ำมันพืช ที่คาดว่าจะยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ดังนั้น ด้วยความต้องการใช้ถั่วเหลืองที่ยังเติบโต ท่ามกลางราคาถั่วเหลืองที่ยืนตัวสูง สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการจะยังเผชิญกับภาระต้นทุนที่ขยับสูงขึ้น ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ (ถั่วเหลืองนำเข้า)รวมถึงต้นทุนการผลิตอื่นๆ ในประเทศที่มีแนวโน้มขยับขึ้น อาทิ ค่าพลังงาน (ไฟฟ้า-ขนส่ง) ค่าจ้างแรงงาน เป็นต้น โดยระดับของผลกระทบอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสัดส่วนโครงสร้างต้นทุนและความยืดหยุ่นในการปรับตัว เช่น ธุรกิจผลิตน้ำมันพืชจากถั่วเหลือง อาจมีข้อจำกัดเรื่องวัตถุดิบทดแทน ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การปรับขึ้นราคาจำหน่ายก็ทำได้จำกัดจากการเป็นสินค้าควบคุม และมีสินค้าทดแทนในตลาดที่มีราคาต่ำกว่า (น้ำมันปาล์ม) ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์อาจปรับตัวโดยการเปลี่ยนสูตรอาหารไปใช้ธัญพืชอื่นทดแทนได้บ้าง แต่ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับสูตรอาหารและปริมาณสารอาหารที่สัตว์จะได้รับในระดับใกล้เคียงกับวัตถุดิบเดิม เป็นต้น

หากมองต่อไปในระยะข้างหน้า ต้นทุนการผลิตของธุรกิจที่พึ่งพาถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำนมถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง (อาหารสัตว์) หรือถั่วเหลืองสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช เป็นต้น ยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและมีความผันผวนสูง จากต้นทุนการผลิตของธุรกิจที่มีแนวโน้มสูงขึ้น สภาพภูมิอากาศแปรปรวนที่อาจกระทบต่อปริมาณผลผลิต รวมถึงทิศทางของราคาธัญพืชในตลาดโลกที่ยังถูกกดดันจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน จำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและวางแผนรับมือสถานการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น



------------------------------------------------------------

 1 บราซิลและอาร์เจนตินาเป็นผู้ผลิตและส่งออกถั่วเหลืองรายสำคัญของโลก มีสัดส่วนราว 52% ของปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองทั้งหมดในตลาดโลก และมีสัดส่วน 57% ของปริมาณการส่งออกถั่วเหลืองทั้งหมดในตลาดโลก

 2 ความต้องการถั่วเหลืองในประเทศ จากโรงงานสกัดน้ำมัน (คิดเป็นสัดส่วนราว 75% ของความต้องการถั่วเหลืองในประเทศ) จากโรงงานแปรรูปอาหารคนและอาหารสัตว์ (คิดเป็นสัดส่วน 25% ของความต้องการใช้ถั่วเหลืองในประเทศ)





 


Click
 ชมคลิป ราคาถั่วเหลืองนำเข้าของไทย ปี 65-66 ยืนสูง...กดดันการใช้ถั่วเหลือง


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น