Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 สิงหาคม 2551

บริการ

23 สิงหา บังคับใช้กฎหมายจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ คาดเงินสะพัดธุรกิจจัดเก็บข้อมูลกว่า 500-1,000 ล้านบาท (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2259)

คะแนนเฉลี่ย

ปัจจุบันอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สร้างความเสียหายทั้งต่อบุคคลและองค์กร ส่งผลให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2550 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้อย่างถูกต้อง จึงมีการกำหนดให้มีการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดได้ โดยในวันที่ 23 สิงหาคม 2551 จะเป็นวันแรกที่กฎหมายจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จะมีผลบังคับใช้โดยสมบูรณ์ หลังจากที่ผ่อนผันมาเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะมีผลสำคัญทำให้หน่วยงานที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์และสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตามที่กฎหมายกำหนด จะต้องทำการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่สามารถระบุตัวบุคคลที่เข้าใช้งานเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 90 วัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะต้องอยู่ในลักษณะที่ไม่มีบุคคลใดสามารถเข้าไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมายปรับไม่เกิน 500,000 บาท และหากเจ้าหน้าที่ขอเรียกดูข้อมูลแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะถูกปรับไม่เกิน 200,000 บาท และต่อเนื่องอีกวันละไม่เกิน 5,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติได้ถูกต้อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าหลังการบังคับใช้กฎหมายอย่างสมบูรณ์ คาดว่าจะทำให้เกิดการลงทุนพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่ โดยหากการบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างเข้มงวด มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และภาคธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บข้อมูล จะส่งผลให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในระบบจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์กว่าประมาณ 500-1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7-14 เมื่อเทียบกับมูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของภาคธุรกิจโดยรวมในปี 2550 ที่มีมูลค่าประมาณ 74,089 ล้านบาท ซึ่งนับว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจจัดเก็บข้อมูลทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ ที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท

แม้ธุรกิจจัดเก็บข้อมูลจะได้รับผลดีจากการบังคับใช้กฎหมายจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ แต่โดยภาพรวมแล้วจะส่งผลให้ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องมีต้นทุนในการดำเนินงานมากขึ้น เนื่องจากต้องลงทุนพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ปัจจุบันภาคธุรกิจต้องเผชิญปัญหาต้นทุนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมทั้งยังเผชิญปัญหายอดขายชะลอตัวลงจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในระบบจัดเก็บข้อมูลนั้นอาจจะส่งผลให้ต้นทุนดำเนินงานของภาคธุรกิจเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าทางออกประการหนึ่งสำหรับการแก้ปัญหาในเรื่องนี้นั้น ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอาจเลือกใช้วิธีการเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง โดยอาจซื้อหรือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่ไม่คิดค่าบริการ (Freeware) มาใช้ในการจัดการข้อมูล และจัดเก็บข้อมูลลงในฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก

ปัญหาสำคัญประกาศหนึ่งของกฎหมายจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ คือ ความรู้ความเข้าใจของผู้ที่อยู่ในข่ายต้องจัดเก็บข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะมียังมีหลายหน่วยงานที่ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องในกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะธุรกิจหรือองค์กรขนาดเล็ก ดังนั้น ภาครัฐจึงควรเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญจากการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


บริการ