จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจเผชิญปัจจัยลบรุมเร้าในหลายด้าน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศซึ่งหดตัวลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2552 ทำให้ค่ายรถจักรยานยนต์ต่างใช้กลยุทธ์ทางการตลาดหลากหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขายซึ่งมีโอกาสที่จะชะลอตัวอย่างหนักในปีนี้ อย่างไรก็ตามในช่วงที่เศรษฐกิจของไทยอยู่ในภาวะถดถอยเช่นนี้ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดน้อยลง การเลือกกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในภาวะเช่นนี้จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้วิเคราะห์ถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในปี 2552 ดังประเด็นสำคัญต่อไปนี้
ปัจจุบันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศของไทย ซึ่งกระทบต่อภาคธุรกิจและการจ้างงานในประเทศ ทำให้ความเชื่อมั่นในการบริโภคของประชาชนลดน้อยถอยลง ประกอบกับสถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ เนื่องจากความกังวลต่อหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคหลักของตลาดจักรยานยนต์ลดลงได้กดดันทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ของไทยคาดว่าจะหดตัวลง
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2552 นี้ยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศมีโอกาสจะหดตัวลงไปได้ถึงประมาณร้อยละ 17 ถึง 21 ทำให้ยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งปีลดลงมาที่ประมาณ 1,350,000 ถึง 1,410,000 คัน และแม้ว่าตลาดรวมจะหดตัวรุนแรงแต่ในภาวะที่เศรษฐกิจในประเทศยังคงถดถอยต่อเนื่อง ซึ่งทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดต่ำลง ประกอบกับต้องประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นนั้น ทำให้ทิศทางความสนใจต่อรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวซึ่งมีคุณลักษณะเด่นด้านความประหยัดพลังงาน และราคาจำหน่ายที่ต่ำกว่ามีเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะทำให้ในปีนี้รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นเครื่องยนต์หัวฉีดซึ่งสามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้นจะหดตัวน้อยกว่ารถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติซึ่งเคยขยายตัวสูงมากในช่วงปี 2549 และ 2550
แม้ตลาดรถจักรยานยนต์รวมปีนี้คาดว่าจะหดตัวสูง แต่ความที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เลือกซื้อรถจักรยานยนต์ทดแทนรถยนต์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ปัจจุบันค่ายรถจักรยานยนต์รวมไปถึงดีลเลอร์ต่างก็ใช้กลยุทธ์หลากรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลงทำให้บริษัทผู้ให้สินเชื่อยังมีช่องว่างในการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ เพื่อเป็นแคมเปญจูงใจร่วมกับกลยุทธ์ส่งเสริมการขายอื่นๆของค่ายรถและดีลเลอร์ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งกลยุทธ์ต่างๆนี้น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดที่ดี
หากเศรษฐกิจในประเทศและสถานการณ์การเมืองไม่รุนแรงไปกว่านี้จนก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้นโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบท ที่เน้นการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มผู้บริโภคระดับล่างล่าช้าไปจากเดิม ซึ่งจะกดดันอุปสงค์ต่อรถจักรยานยนต์ในปีนี้ทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศในปี 2552 นี้มีโอกาสที่จะหดตัวต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี หรือหากจะมีการฟื้นตัวก็คาดว่าอย่างเร็วที่สุดจะเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2552
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น