การค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาทั้งการค้าระหว่างประเทศและการค้าชายแดนมีมูลค่าลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของวิกฤตการเงินโลกที่กดดันให้เศรษฐกิจกัมพูชาชะลอตัวลงอย่างหนักตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2551 เป็นต้นมา โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยและกัมพูชาที่ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกจากไทยไปกัมพูชาลดลงถึงร้อยละ 25.5 (YoY) เช่นเดียวกับการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่ลดลงร้อยละ 16.9 (YoY) แม้ว่ามูลค่าการค้าและดุลการค้าระหว่างไทย-กัมพูชาจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่การนำเข้าของไทยจากกัมพูชาที่ลดลงในอัตราสูงกว่าการหดตัวของการส่งออกทำให้ไทยยังคงเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับกัมพูชาทั้งการค้าระหว่างประเทศและการค้าชายแดน
สาเหตุสำคัญที่ทำให้มูลค่าการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาลดลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าโดยรวมของไทย-กัมพูชาคือ สินค้าที่ไทยและกัมพูชาทำการค้าผ่านชายแดนระหว่างกันนั้นเกือบทั้งหมดเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ชาวกัมพูชาจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันสินค้าที่ไทยส่งออกผ่านชายแดนกัมพูชาส่วนหนึ่งเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกส่งผ่านประเทศกัมพูชาไปยังเวียดนามและจีนตอนใต้ สำหรับการค้าระหว่างไทย-กัมพูชาในช่วงครึ่งหลังของปี 2552
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การค้าไทย-กัมพูชาทั้งในด้านการค้าระหว่างประเทศและการค้าชายแดนน่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาปี 2552 อาจจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ร้อยละ 0.5 แต่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจจะช่วยขับเคลื่อนภาคการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของกัมพูชา และจะช่วยให้เศรษฐกิจกัมพูชามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบอีกหลายประการที่อาจจะมีผลต่อทิศทางการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่เหลือของปีนี้ อาทิ สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจากกรณีเขาพระวิหารที่ปะทุขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2552 และภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของกัมพูชา
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น