สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองนับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2553 อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2553 โดยหากสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา และยังคงมีกระแสข่าวการนัดชุมนุมประท้วงทางการเมือง และการออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมสถานการณ์ของภาครัฐ ก็จะยิ่งตอกย้ำให้นักท่องเที่ยว และเอเยนต์ทัวร์ที่เฝ้ามองประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เกิดความลังเลที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าการท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพฯจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยวปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หากการชุมนุมสามารถคลี่คลายได้ภายในครึ่งแรกปี 2553 และทางการรวมทั้งผู้ประกอบการมีเวลาที่จะหันมาเร่งประชาสัมพันธ์ หรือทำการตลาดจนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 3 ก็เป็นไปได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจโตได้ร้อยละ 5.5 ต่ำกว่าประมาณการในช่วงต้นปีที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 10 แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อเนื่องไปในครึ่งปีหลัง จนยากที่จะฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตาของนานาประเทศให้กลับคืนมาได้ในช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของปี 2553 อาจจะหดตัวเป็นปีที่สองติดต่อกันจากปี 2552 ในอัตราติดลบร้อยละ 1.0 (ภายใต้สมมุติฐานว่าไม่มีเหตุการณ์ปิดสนามบิน)
โดยสรุปแล้ว นอกจากความยืดเยื้อของสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ยังขึ้นอยู่กับกิจกรรมต่างๆในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยโดยหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหากเข้มข้นและโดนใจนักท่องเที่ยว รวมถึงทันท่วงทีที่สถานการณ์คลี่คลายสู่ภาวะปกติ ก็มีโอกาสสูงที่จะสามารถกระตุ้นการขยายตัวของตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงที่เหลือของปี ให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปี 2553 ไม่ต่ำกว่าเป้าหมายมากนัก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น