ระบบ 3G ถือได้ว่าเป็นกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้แล้ว ข้อกำหนดที่ให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปิดให้บริการคงสิทธิเลขหมายก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่จะมีผลต่อตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอนาคต ทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้มีการกำหนดให้บริการคงสิทธิเลขหมายเป็นบริการที่จำเป็นต่อการให้บริการ 3G ในอนาคต
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แนวโน้มตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อนการเปิดให้บริการ 3G ในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 ตลาดยังคงเติบโต แต่อาจจะมีอัตราที่ชะลอลงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากผลของฐานที่สูงในปีก่อน และทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการด้านข้อมูลจะยังคงเป็นแรงผลักดันการขยายตัวของตลาด ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2553 ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีอัตราเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 6.8 จากที่เติบโตเพียงร้อยละ 1.0 ในปี 2552 โดยบริการด้านเสียงจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ 3.0 ในขณะที่บริการด้านข้อมูลจะมีอัตราเติบโตร้อยละ 25.0
สำหรับบริการคงสิทธิเลขหมายนั้น ในระยะสั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปัจจัยค่าธรรมเนียมการโอนย้ายอาจจะเป็นแรงกดดันแก่ผู้บริโภคในการตัดสินใจใช้บริการคงสิทธิเลขหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้บริการแบบเติมเงิน ในระยะยาวเมื่อการแข่งขันในบริการ 3G รุนแรงขึ้น คาดว่า ผู้ให้บริการอาจนำประเด็นการลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนย้ายมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการจูงใจผู้บริโภค
หลังการเปิดบริการ 3G ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผู้ให้บริการอาจจะเน้นการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้านราคา พร้อมกับพัฒนาบริการที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดผู้บริโภคทั้งจากค่ายอื่น และบนระบบ 2G ให้เปลี่ยนมาใช้งานบนระบบ 3G โดยเฉพาะการขยายการให้บริการด้านข้อมูล ซึ่งมีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจอีกมาก ดังที่เห็นได้จากปัจจุบันที่สัดส่วนรายได้ของบริการด้านข้อมูลอยู่เพียงระดับที่ไม่เกินร้อยละ 20 ในขณะที่ประเทศที่มีการใช้ระบบ 3G แล้ว สัดส่วนรายได้ของบริการด้านข้อมูลจะมีระดับสูงถึงร้อยละ 30 ถึง 70
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น