สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ช่วงนี้มีแนวโน้มส่งผลกระทบการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศ ซึ่งเดิม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ส่งผลให้โดยรวมทั้งปี 2553 จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศรวมทั้งสิ้นประมาณ 87 ล้านคน/ครั้ง ขยายตัวร้อยละ 1.2 จากปีก่อน และก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 395,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากปีก่อน
แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลบั่นทอนการขยายตัวของตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 ให้ชะลอลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิม เนื่องจากในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีการจัดงานประเพณีงานบุญสำคัญๆ โดยปลายทางส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังประสบภาวะน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะลดระดับความรุนแรงลงได้ภายในกลางเดือนพฤศจิกายน 2553 และคาดการณ์ความรุนแรงของผลกระทบออกเป็น 2 กรณี ขึ้นกับความรวดเร็วในการเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ให้สามารถรองรับการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปี 2553
1) หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวในภาคต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม ให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวได้ภายในเดือนพฤศจิกายน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาวะน้ำท่วมจะส่งผลกระทบทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยว จากการที่คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมประมาณ 2,000 ล้านบาท
2) หากการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวล่าช้าออกไป ทำให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวได้ภายในเดือนธันวาคม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ก็คาดว่า ภาวะน้ำท่วมจะส่งผลกระทบทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยว จากการที่คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิม ประมาณ 4,000 ล้านบาท
นอกจาก ความรวดเร็วของการเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่เสียหายให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวแล้ว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรเร่งประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่ง รวมทั้งเส้นทางเดินทางที่สะดวก และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติรับทราบ รวมทั้งคนไทยทุกคนควรร่วมมือร่วมใจ หันมาช่วยกันเที่ยวในประเทศ เพื่อกระจายเม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวไปสู่ระดับท้องถิ่นต่างๆได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติ แทนการใช้โอกาสจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เงินตรารั่วไหลออกนอกประเทศ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น