จากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศของไทยที่ยืดเยื้อต่อเนื่องมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และบั่นทอนการขยายตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยอย่างเด่นชัดในช่วงปี 2551-2553
อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์รุนแรงในกรุงเทพฯช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 คลี่คลายลงสู่ภาวะปกติ และจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนได้จากการฟื้นตัวกลับมาเติบโตตามปกติได้อย่างรวดเร็วของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 แม้คาดว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงที่เกิดอุทกภัยร้ายแรงในภาคต่างๆของไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า โดยรวมตลอดทั้งปี 2553 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 15.55 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 536,000 ล้านบาท และคาดว่าหากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดมากระทบแล้ว ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องไปในปี 2554 แม้ในอัตราไม่สูงนัก คือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 16.33 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 555,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของไทยดังกล่าวจะประสบความสำเร็จไม่ได้ หากขาดความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะการสร้างเสถียรภาพด้านการเมืองในประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดความสงบสุข และไม่มีความแตกแยกในประเทศ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเกื้อหนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศคิดเป็นมูลค่าปีละกว่า 5 แสนล้านบาท
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น