ในปัจจุบันที่ตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาคยุโรปกำลังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มชะลอการเติบโตลงในบางตลาดนั้น อินเดียเป็น 1 ในตลาดท่องเที่ยวระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชียที่มีศักยภาพสูง และเป็นตลาดท่องเที่ยวเป้าหมายสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย ที่มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะสามารถชดเชยรายได้ท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มลดลงจากตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขยายตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียในระดับบน หรือตลาดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) อาทิ กลุ่มไมซ์[1] กลุ่มคู่แต่งงาน กลุ่มช็อปปิ้ง กลุ่มเล่นกอล์ฟ และกลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นต้น ซึ่งล้วนมีการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป (ที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ในระดับประมาณกว่า 3 หมื่นบาทต่อทริป) กว่าเท่าตัว สำหรับการจัดงานแต่งงานั้น คุณภาพการให้บริการจัดงานแต่งงานที่มีความเป็นมืออาชีพมีความจำเป็น เพราะจะสามารถช่วยสร้างการรับรู้และยกระดับให้ตลาดจัดงานแต่งงานของไทยเป็นตลาดที่มีคุณภาพในสายตานักท่องเที่ยวอินเดีย ทั้งในด้านราคา บริการจัดงานแต่งงาน บริการต่อเนื่องด้านการท่องเที่ยว ความปลอดภัย ความคุ้มค่า ฉะนั้น หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของไทยควรเร่งดำเนินการพัฒนาทักษะของแรงงานในธุรกิจนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มจัดงานแต่งงานขยายตัวอย่างเนื่อง นอกจากนี้ การพัฒนาช่องทางการสื่อสารการท่องเที่ยวไทยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียอย่างมีประสิทธิผล จำเป็นจะต้องใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีอยู่กว่าร้อยละ 50 ของประชากรของอินเดีย อาทิ การจัดทำหนังสือเผยแพร่ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไทยจะช่วยให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวของไทยอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
จากความสนใจของชาวอินเดียในการเข้ามาดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบในประเทศไทย หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในตลาดอินเดียอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่ไว้ และมุ่งขยายตลาดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า โดยรวมตลอดปี 2555 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เป็น 1.07 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยวแก่ประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 37,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น