กระแสความนิยมเดินทางท่องเที่ยวทำบุญที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยกระตุ้นตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูฝน และอยู่ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลในยุโรป ทำให้บรรดาผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งหลายต่างต้องพึ่งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย เพื่อมาช่วยชดเชยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ดึงดูดลูกค้า ทั้งในกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวทั่วไป และตลาดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมุ่งขยายตลาดการประชุมสัมมนาทั้งของหน่วยราชการและธุรกิจเอกชน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมงานบุญประเพณีในช่วงเข้าพรรษาปี 2556 ของคนกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 10-16 กรกฎาคม 2556 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 416 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงประเพณีเข้าพรรษาในปีนี้ ซึ่งสามารถสรุปประเด็นที่สำคัญดังนี้ คือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 96.4 เห็นว่าเทศกาลเข้าพรรษายังคงมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ช่วยสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมอันดีของไทยในวันสำคัญทางพุทธศาสนา โดยร้อยละ 69.2 มีแผนจะเข้าร่วมกิจกรรมในวันเข้าพรรษาโดยเลือกไปทำบุญที่วัดในกรุงเทพฯ มากอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ ที่วัดในจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 70 เดินทางไปทำบุญกับสมาชิกในครอบครัว และส่วนใหญ่เลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
สำหรับการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลเข้าพรรษากันอย่างยิ่งใหญ่ในหลายพื้นที่ เพื่อรองรับกระแสการทำบุญที่ขยายตัวอย่างกว้างขวางไปในหมู่คนไทยชาวพุทธ ทุกเพศ ทุกวัย ที่ส่วนใหญ่ต่างแสวงหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ เมื่อประกอบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยที่แจ่มใส จึงมีแนวโน้มเกื้อหนุนการเติบโตของตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศประมาณ 30.2 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่เที่ยวในประเทศนับได้ว่ายังเติบโตในอัตราค่อนข้างดี ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปีที่ขยายตัวประมาณร้อยละ 9.6 (เทียบกับครึ่งแรกของปี 2555 ที่บรรยากาศภายในประเทศยังไม่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยในหลายพื้นที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังภัยน้ำท่วมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554)
เม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ มีแนวโน้มสะพัดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยประมาณร้อยละ 23 คิดเป็นมูลค่า 2.75 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มสะพัดไปสู่ธุรกิจด้านที่พัก รองลงมา คือ ร้อยละ 22 คิดเป็นมูลค่า 2.65 หมื่นล้านบาทสะพัดสู่ธุรกิจจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และร้อยละ 18 คิดเป็นมูลค่า 2.15 หมื่นล้านบาทสะพัดสู่ธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ เม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวดังกล่าว ยังสะพัดสู่ธุรกิจด้านคมนาคมขนส่ง และธุรกิจด้านบันเทิงและนันทนาการในสัดส่วนเท่ากัน คือ ร้อยละ 15 คิดเป็นมูลค่ารวมกัน 3.6 หมื่นล้านบาท
สำหรับแนวโน้มโดยรวมตลอดปี 2556 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศจะเติบโตประมาณ ร้อยละ 6.1 จากปีก่อนหน้า โดยในช่วงไตรมาส 4 ยังมีปัจจัยหนุนจากการที่นักท่องเที่ยวคนไทยส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นในช่วงปลายปี
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น