แม้ในปัจจุบันคนไทยโดยรวมจะจับจ่ายกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงตั้งใจทำกิจกรรมร่วมกับคุณแม่ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ ยังมีแนวโน้มเกื้อหนุนให้คนไทยส่วนใหญ่ร่วมกิจกรรมในเทศกาลวันแม่ปีนี้ โดยกิจกรรม 5 อันดับแรกที่คนกรุงฯ ทำในเทศกาลวันแม่ปีนี้ คือ มอบพวงมาลัย รับประทานอาหารร่วมกัน ทำบุญ/ไหว้พระ ซื้อของขวัญให้ และเดินทางท่องเที่ยว
สำหรับเทศกาลวันแม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันนั้น เอื้ออำนวยให้หลายครอบครัวเลือกที่จะพาคุณแม่และสมาชิกในครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งการเดินทางท่องเที่ยวแบบค้างคืน และแบบเช้าไปเย็นกลับ ประกอบกับอยู่ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากตลาดระยะไกล บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย จึงมุ่งเน้นขยายตลาดไทยเที่ยวไทยเพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงในช่วงนี้ โดยส่วนใหญ่ต่างนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษตลอดทั้งเดือนสิงหาคม ไม่เฉพาะในวันหยุดช่วงเทศกาลวันแม่ ทั้งนี้ เพื่อกระจายการเดินทางท่องเที่ยว หลีกเลี่ยงปัญหาความแออัดของนักท่องเที่ยว ที่มักกระจุกตัวเที่ยวกันในช่วงวันหยุดยาว โดยมีแพ็กเกจท่องเที่ยวในประเทศ (ซึ่งมีทั้งรายการนำเที่ยววันเดียว และรายการนำเที่ยวแบบค้างคืน) และแพ็กเกจท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสความนิยมของคนไทยในปัจจุบันที่หันมาให้ความเอาใจใส่ดูแลสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะบุพการีผู้สูงอายุกันมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดการณ์ว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย ช่วงวันหยุดเทศกาลวันแม่ในปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 7.0 จากปีก่อนหน้าช่วงเดียวกัน และก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยวสะพัดทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 เม็ดเงินส่วนใหญ่กระจายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจบริการด้านการขนส่งและรถเช่า ธุรกิจการบิน สถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าสะดวกซื้อตามเส้นทางท่องเที่ยว ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกรวมทั้งสินค้าพื้นเมือง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น