จากข้อจำกัดของงบประมาณด้านสื่อโฆษณา ส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าและบริการมุ่งเลือกซื้อสื่อโฆษณาที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ในวงกว้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถสร้างประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการได้อย่างใกล้ชิด และสอดแทรกโฆษณาไปกับการใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างกลมกลืน สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของสื่อโฆษณานอกบ้าน โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การขยายสาขาห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับสื่ออินสโตร์ และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินซึ่งสะท้อนศักยภาพของจำนวนผู้ชมโฆษณาที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่นำมาซึ่งโอกาสในการเติบโตของสื่อโฆษณานอกบ้าน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณการตลาดสื่อโฆษณานอกบ้านในปี 2556 นี้ ว่าจะมีมูลค่ารวม 10,711 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 4.8 จากปี 2555 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 10,217 ล้านบาท โดยสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ได้แก่ สื่ออินสโตร์ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 8.0 และสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 7.8 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า คุณสมบัติของสื่อดิจิตอลที่ดึงดูดผู้ชม ความยืดหยุ่นสำหรับผู้ประกอบการในการโฆษณา และจอ LED มีราคาถูกลง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าและบริการมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อพื้นที่สื่อโฆษณานอกบ้านแบบดิจิตอล ทดแทนการซื้อพื้นที่สื่อโฆษณานอกบ้านแบบดั้งเดิม เช่น ป้ายบิลบอร์ด โดยคาดว่า การติดตั้งสื่อโฆษณานอกบ้านแบบดิจิตอลมีแนวโน้มที่จะขยายไปในจังหวัดรองมากขึ้น
สำหรับปี 2556 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจะส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าและบริการปรับลดงบประมาณในการโฆษณาลง รวมถึงคำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก็ยังมีทางเลือกในการจัดสรรงบประมาณจากสื่อโฆษณาหลัก ได้แก่ โทรทัศน์ ซึ่งมีอัตราค่าโฆษณาอยู่ในระดับสูง มายังสื่อทางเลือกที่มีอัตราค่าโฆษณาอยู่ในระดับต่ำกว่า ในขณะที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้สื่อโฆษณานอกบ้านยังคงเป็นทางเลือกในการโฆษณาสินค้าและบริการที่น่าสนใจและน่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตผู้ให้บริการติดตั้งสื่อโฆษณานอกบ้านอาจต้องเผชิญกับปัจจัยด้านกฎระเบียบในการโฆษณา ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดกฎหมายควบคุมแสงจากการติดตั้งป้ายโฆษณาประเภทหน้าจอ LED ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดกฎหมายควบคุมแสงจากการติดตั้งป้ายโฆษณาประเภทหน้าจอ LED โดยตรง โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบการขอความร่วมมือจากผู้ติดตั้งป้ายให้ลดความสว่างของหน้าจอลง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น