ในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยวของคนไทยที่ชื่นชอบอากาศหนาวเย็น ซึ่งปลายทางท่องเที่ยวเป้าหมายส่วนใหญ่ คือ แหล่งท่องเที่ยวตามยอดดอยในภาคเหนือตอนบน เพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็น และชมความงามของทะเลหมอก รวมถึงพืชพรรณไม้ดอก ไม้ผล และพืชผักเมืองหนาว ขณะเดียวกันการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่องไปในช่วงปลายปี ของหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชนแต่ละในพื้นที่ ประกอบกับในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการจัดงานประเพณีลอยกระทง
ซึ่งการจัดงานในปีนี้จะงดการละเล่นและกิจกรรมบันเทิงเพื่อความรื่นเริง แต่เน้นรูปแบบงานที่สืบทอดประเพณีไทยในการลอยกระทงเพื่อขอขมาพระแม่คงคา โดยแหล่งท่องเที่ยวในภาคเหนือ ที่มีการจัดงานลอยกระทงเป็นประจำทุกปี และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ได้แก่ ประเพณีบุญเดือนสิบสอง ยี่เป็ง (จังหวัดเชียงใหม่) ประเพณีลอยกระทงสาย (จังหวัดตาก) ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ (จังหวัดสุโขทัย) เป็นต้น
ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยท้าทาย ที่อาจส่งผลต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของประชาชนภายในประเทศ รวมถึงการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว คือ เสถียรภาพด้านการเมืองภายในประเทศ สภาพเศรษฐกิจ และภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปี 2556) จะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในภาคเหนือรวมทั้งสิ้นประมาณ 4.23 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีจำนวนประมาณเกือบ 4 ล้านคน และมีแนวโน้มก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยวในภาคเหนือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 19,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 จากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าประมาณ 17,830 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้ท่องเที่ยวดังกล่าวจะสะพัดสู่เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย และเพชรบูรณ์ ตามลำดับ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น