แม้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอาจยังคงมีทิศทางชะลอตัว แต่สำหรับภาพรวมของธุรกิจขนส่งทางถนนในปี 2557 คาดว่า จะเติบโตตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กระจายตัวออกสู่ภูมิภาคมากขึ้น โดยมีปัจจัยหนุน ได้แก่ การขยายการลงทุนของภาคเอกชนไปยังภูมิภาค การเติบโตของการค้าชายแดนและผ่านแดน และการก้าวย่างเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งทางถนน ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีผู้ประกอบการขนส่งไทยรายใหญ่หลายรายเริ่มเข้าไปลงทุนดำเนินธุรกิจขนส่งในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
อย่างไรก็ดี ยังคงมีความท้าทายที่ผู้ประกอบการไทยยังคงต้องเผชิญอยู่ อาทิ ต้นทุนการประกอบการธุรกิจทางถนนในปีนี้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น ราคาเชื้อเพลิง การชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และกรอบความร่วมมือในการขนส่งระหว่างประเทศอาเซียนเป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้เกิดความไม่ชัดเจน และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง จึงทำให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินการ
โดยสรุป ธุรกิจขนส่งทางถนนของไทยยังคงมีโอกาสอีกมาก โดยได้รับอานิสงส์ทั้งจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อตอบสนองความเติบโตของความเป็นเมืองในต่างจังหวัดและความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับการเปิด AEC โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดหัวเมืองหลัก และจังหวัดการค้าชายแดน ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าที่สูง จึงเป็นโอกาสของ ธุรกิจขนส่งทางถนนให้สามารถเติบโตได้อีกมาก
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ในภาคขนส่งและโลจิสติกส์ทางถนน (ณ ราคาปีปัจจุบัน) ในปี 2557 จะมีมูลค่า 257,900-263,800 ล้านบาท โดยขยายตัวร้อยละ 5.1-7.5 จากปี 2556 ที่มีมูลค่าประมาณ 245,400 ล้านบาท
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น