ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารนับว่ามีความสำคัญเนื่องจากเป็นกิจกรรมในการเคลื่อนย้ายทรัพยากรมนุษย์ และเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานในการสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยธุรกิจขนส่งผู้โดยสารของไทยที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ อาทิ การเติบโตของความเป็นเมือง จากการขยายตัวเศรษฐกิจภูมิภาค การเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมของภาครัฐ ทั้งนี้ โครงสร้างการขนส่งผู้โดยสารส่วนใหญ่นั้นเป็นการขนส่งทางถนน ดังจะเห็นได้จาก ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ในภาคขนส่งผู้โดยสารทางถนน (ณ ราคาปีปัจจุบัน) ในปี 2556 ที่มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 61.2 เมื่อเทียบจีดีพี ในภาคขนส่งผู้โดยสารทั้งหมด
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยค่อนข้างชะลอตัว ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารพลอยได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ในภาคขนส่งผู้โดยสารทางถนน ในไตรมาสแรกของปี 2557 หดตัวร้อยละ 0.76
สำหรับธุรกิจขนส่งผู้โดยสารในครึ่งปีหลัง คาดว่า จะมีการฟื้นตัวดีขึ้น โดยน่าจะขยายตัวสูงกว่าในครึ่งปีแรก เนื่องจากความชัดเจนของสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ รวมถึงนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวที่มีการจัดขึ้นตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทย และเป็นปัจจัยสำคัญให้ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย อย่างไรก็ดี แม้ว่าธุรกิจขนส่งผู้โดยสารทางถนนจะยังคงมีความสำคัญและมีสัดส่วนที่สูง แต่ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารโดยรถโดยสารประจำทางโดยเฉพาะธุรกิจรถทัวร์วีไอพีและ ป1 ซึ่งมีราคาค่าโดยสารอยู่ในระดับบนยังคงเผชิญความท้าทาย เนื่องจากผู้โดยสารหันไปเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น และจากการเข้ามาแข่งขันของสายการบินโลว์คอสต์
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ในภาคขนส่งผู้โดยสารทางถนน (ณ ราคาปีปัจจุบัน) ในปี 2557 จะมีมูลค่า 137,300-139,700 ล้าน โดยอยู่ในกรอบหดตัวร้อยละ 0.5 ถึงขยายตัวร้อยละ 1.2 จากปี 2556 ที่มีมูลค่าประมาณ 138,000 ล้านบาท
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น