สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนของไทยในปี 2557 ถดถอยลงต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2556 โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาลดลงร้อยละ 29.1 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการใช้กฎอัยการศึกและการประกาศใช้เคอร์ฟิว (ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557) ซึ่งส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนของไทยถดถอยลงถึงร้อยละ 41.4 ในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ดี เมื่อมีการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร (ในวันที่ 10 มิถุนายน 2557) สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยเริ่มส่งสัญญาณการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในเดือนกรกฎาคม
ขณะที่แรงหนุนที่คาดว่าจะช่วยให้ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนของไทยปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี 2557 ได้แก่ สถานการณ์ความสงบปราศจากการชุมนุมในไทย ประกอบกับฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวประมาณ 7 วัน เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติจีน (ระหว่างวันที่ 1 – 7 ตุลาคมของทุกปี) ต่อเนื่องถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2558 ควบคู่กับความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนไทยที่เร่งดำเนินกิจกรรมทางการตลาดอย่างเข้มข้นในระยะนี้ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยวสำหรับชาวจีนและจีนไทเป (ระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม - 8 พฤศจิกายน 2557) รวมทั้งมาตรการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนจากเมืองเศรษฐกิจสำคัญ คือ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เฉิงตู คุนหมิง ของหน่วยงานด้านท่องเที่ยวของไทยทั้งภาครัฐและเอกชน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงประเมินว่า ตลอดทั้งปี 2557 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 4.1 ล้านคน ลดลงร้อยละ 11.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และก่อให้เกิดรายได้สะพัดสู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 160,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.3 จากปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามปัจจัยท้าทายที่อาจจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยน้อยลงจากที่ประมาณการณ์ เช่น สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก อาจส่งผลโดยตรงกับประเทศคู่ค้าของจีนและผลโดยอ้อม คือ บรรยากาศและความกังวลสำหรับการใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ อีกทั้ง ผลของความขัดแย้งต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบล่า เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น