Display mode (Doesn't show in master page preview)

13 กุมภาพันธ์ 2558

ท่องเที่ยว

ตลาดไทยเที่ยวไทยปี’ 58: คาดจะสร้างเม็ดเงินสะพัดประมาณ 7.72 แสนล้านบาท (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 2591)

คะแนนเฉลี่ย

ตลาดไทยเที่ยวไทยเป็นอีกตลาดที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยสร้างเม็ดเงินสะพัดไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดไทยเที่ยวไทยช่วยพยุงภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในยามเกิดวิกฤติที่ตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหดตัวลง ขณะที่ ทิศทางของตลาดไทยเที่ยวไทยในปี 2558 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สำหรับทิศทางตลาดไทยเที่ยวไทยในปี 2558 มีหลายปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวกันของกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน รวมถึงกลุ่มองค์กร โดยนอกจากการทำการตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องร่วมกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสายการบินและธุรกิจโรงแรม รวมถึงสถาบันการเงิน ในปัจจุบันคนไทยยังได้รับอิทธิพลจากสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการแบ่งปันรูปภาพและประสบการณ์ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ของไทย และเมื่อประกอบกับในปี 2558 ภาครัฐมีการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวไทยภายใต้แคมเปญ ;ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558” ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น แต่ก็ยังได้ให้ความสำคัญต่อการทำตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศเช่นกัน โดยเน้นประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด ได้แก่ ลำปาง น่าน เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ เลย สมุทรสงคราม ราชบุรี ตราด จันทบุรี ชุมพร ตรัง และนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภายใต้แคมเปญการท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลาดนี้ จะช่วยให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่เมืองดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 3,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีแคมเปญดังกล่าว โดยแนวโน้มการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว ก็น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในพื้นที่
นอกจากนี้ เมื่อประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของภาครัฐ ด้วยการนำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีเงินได้ สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป สามารถนำค่าใช้จ่ายค่าแพ็คเกจทัวร์ในประเทศหรือค่าใช้จ่ายด้านที่พัก มาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท ขณะที่มาตรการดังกล่าวยังครอบคลุมถึงกลุ่มบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีการจัดโครงการอบรมสัมมนาภายในประเทศให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งสามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่งหรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง นำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้เป็นจำนวน 2 เท่าของที่จ่ายจริง จากปัจจัยแวดล้อมข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2558 จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวนประมาณ 148.5 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 จากที่ในปี 2557 เพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 5.0 โดยจะช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมูลค่าประมาณ 7.72 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.4 ซึ่งสูงขึ้นกว่าปี 2557 ที่คาดการณ์ว่ามีมูลค่าประมาณ 7.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 โดยการขยายตัวที่โดดเด่นน่าจะมาจากการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยไปยังเมืองท่องเที่ยวในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) และภาคใต้ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันเกือบครึ่งของตลาดไทยเที่ยวไทยทั้งหมดในปีนี้
สำหรับความคึกคักของตลาดไทยเที่ยวไทยในแต่ละภาคค่อนข้างแตกต่างกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ปัจจัยแวดล้อมของแต่ละภาคที่เอื้อต่อกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยว เช่น สภาพอากาศอากาศหนาวเย็นหนุน คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวยังพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานในช่วงปลายไตรมาส 3 (ช่วงปลายฝนต้นหนาว) ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ของปีถัดไป เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน อาจจะส่งผลต่อพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยบางกลุ่ม ให้มีการปรับแผนการเดินทาง เช่น การเดินทางแบบเช้าไป-เย็นกลับ การเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ รวมถึงการใช้เวลาค้นหาข้อมูลต่างๆ มากขึ้น เพื่อแสวงหาโปรโมชั่นราคาค่าตั๋วเครื่องบินโดยสาร/ค่าห้องพัก เป็นต้น

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ท่องเที่ยว