ทิศทางนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2559 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปยังน่าจะเติบโตได้ แม้ผลจาก Brexit ทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสหภาพยุโรป แต่คาดว่าผลกระทบที่จะส่งผ่านมายังภาคการท่องเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2559 นี้ น่าจะยังจำกัด โดยตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญอย่างเยอรมนี และฝรั่งเศส มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีตลาดนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปอื่นๆ
ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการกลับเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยเพิ่มขึ้น อาทิ นักท่องเที่ยวจากสวีเดน และเดนมาร์ก โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2559 นักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปที่ไม่รวมสหราชอาณาจักร จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.6-8.5 หรือมีจำนวนประมาณ 3.72-3.75 ล้านคน จากที่เติบโตร้อยละ 4.7 ในปี 2558
ขณะที่ สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 8.5 หรือมีจำนวน 5 แสนคน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดในประวัติการณ์ ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ Post Brexit ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2559 ตลาดนักท่องเที่ยว
จากสหราชอาณาจักรที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยน่าจะยังขยายตัวร้อยละ 4.0-5.2 หรือมีจำนวนประมาณ 9.85-9.96 แสนคน
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบในบางประเทศของยุโรป คงส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนชาวยุโรป โดยบางส่วนอาจเลือกที่จะเปลี่ยนแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวยังนอกภูมิภาค ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย ดังนั้น ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องควรใช้จังหวะนี้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้มข้นเพื่อกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะชาวยุโรปที่ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นของปีนี้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น