Display mode (Doesn't show in master page preview)

27 ตุลาคม 2549

บริการ

มาตรการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับ ธุรกิจโฆษณา : คาดส่งผลกระทบระยะสั้น ... เม็ดเงินปี’ 50 ยังเติบโตได้ (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1886)

คะแนนเฉลี่ย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าแนวโน้มอัตราการเติบโตของธุรกิจโฆษณาในปี 2550 น่าจะเติบโตด้วยระดับอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 5 และกลุ่มสื่อที่น่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือสื่อโฆษณารูปแบบที่มีอัตราค่าโฆษณาไม่สูงมาก อย่างสื่อในอาคารห้างร้าน สื่อโรงภาพยนตร์ หรือสื่อเคลื่อนที่ เช่นสื่อรถไฟฟ้าบีทีเอส รถเมล์ และรถแท็กซี่ เป็นต้น ส่วนมาตรการห้ามโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในสื่อทุกแขนงตลอด 24 ชั่วโมงนั้น น่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาปี 2550 ในวงจำกัดและเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมแล้วพบว่า งบโฆษณาผ่านสื่อทุกประเภทของสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 2-3 ของเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมเท่านั้น และล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ยืดหยุ่นให้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สามารถโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ได้ ในลักษณะของการโฆษณาภาพลักษณ์องค์กรที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี ธรรมชาติ หรือสภาพสังคมในแนวคิดสร้างสรรค์ ซึ่งต้องไม่เกี่ยวข้องหรือมีเจตนาส่งเสริมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ระบุชื่อสินค้า ตราสัญลักษณ์ และสโลแกนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยระบุได้เพียงชื่อบริษัทที่ไม่ตรงกับชื่อสินค้า ส่วนสินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอลในเครือยังสามารถโฆษณาผ่านสื่อได้ปกติ แต่หากมีตราสัญลักษณ์เดียวกันก็ห้ามเป็นสีเดียวกับที่ใช้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ขณะที่สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจโฆษณาปี 2550 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่าน่าจะทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากแรงกดดันจากสถานการณ์การแข่งขันระหว่างบรรดาผู้ผลิตสินค้า และบริการในแต่ละประเภทสินค้าที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เพื่อหวังชิงโอกาสในการครองใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดในยุคที่ภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคยังทรงตัวในระดับสูง จนทำให้เอเยนซีต้องเร่งปรับตัวแล้ว พฤติกรรมของเจ้าของสินค้าและบริการซึ่งเป็นลูกค้าของบรรดาเอเยนซีจำนวนไม่น้อยยังคงมีความระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาวะต้นทุนของลูกค้าเอเยนซีก็ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง ดังนั้นปี 2550 จึงน่าจะเป็นอีกปีที่บริษัทเอเยนซีต่างต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการแข่งขันสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อให้โดดเด่น และก่อให้เกิดความประทับใจ ดึงดูดใจ และจับใจต่อผู้บริโภค หรือสามารถทำให้เกิดกระแสบอกต่อแล้ว การทำงานระหว่างเอเยนซี กับผู้ผลิตสินค้าหรือบริการต่างๆนับจากนี้ก็น่าจะเป็นไปในลักษณะที่ร่วมกันคิดร่วมกันทำมากขึ้น และมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะกลุ่มเป้าหมายต่างเพศต่างวัยย่อมมีความสนใจที่แตกต่างกันไป ขณะเดียวกันเอเยนซีแต่ละรายยังต้องเร่งเพิ่มศักยภาพด้านอื่นๆควบคู่ด้วย เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และเตรียมความพร้อมในการช่วงชิงความสนใจจากลูกค้ารายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มศักยภาพของบุคลากร การบริการที่ประทับใจ การเป็นคู่คิดทางธุรกิจ และความรวดเร็วในการแก้ปัญหาหรืออุปสรรคที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ รวมถึงความสามารถในการบริหารเม็ดเงินโฆษณาของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด เห็นว่าน่าจะทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากแรงกดดันจากสถานการณ์การแข่งขันระหว่างบรรดาผู้ผลิตสินค้า และบริการในแต่ละประเภทสินค้าที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เพื่อหวังชิงโอกาสในการครองใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดในยุคที่ภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคยังทรงตัวในระดับสูง จนทำให้เอเยนซีต้องเร่งปรับตัวแล้ว พฤติกรรมของเจ้าของสินค้าและบริการซึ่งเป็นลูกค้าของบรรดาเอเยนซีจำนวนไม่น้อยยังคงมีความระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาวะต้นทุนของลูกค้าเอเยนซีก็ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง2550 จึงน่าจะเป็นอีกปีที่บริษัทเอเยนซีต่างต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการแข่งขันสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อให้โดดเด่น และก่อให้เกิดความประทับใจ ดึงดูดใจ และจับใจต่อผู้บริโภค หรือสามารถทำให้เกิดกระแสบอกต่อแล้ว

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


บริการ