เหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว คือ ยะลา (อำเภอเบตง) ปัตตานี นราธิวาส (อำเภอสุไหงโก-ลก) และสงขลา (อำเภอหาดใหญ่) ที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในปี 2549 โดย ปัตตานี ซึ่งพึ่งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยเกือบทั้งหมดมีแนวโน้มค่อนข้างทรงตัว ส่วน สุไหงโก-ลก ซึ่งพึ่งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัดส่วนร้อยละ 68 มีแนวโน้มชะลอการถดถอยลง ขณะที่มีการขยายตัวในตลาดท่องเที่ยวเบตงโดยได้แรงหนุนจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 79 ส่งผลให้โดยรวมแล้วมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใกล้เคียงกับปี 2548 คือ ประมาณ 8 แสนคน และคาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยมีมูลค่าประมาณ 1,860 ล้านบาท สำหรับในปี 2550 คาดการณ์ว่า หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดมากระทบแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือ ประมาณกว่า 8 แสนคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2,000 ล้านบาท
ส่วน หาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 เป็น 2.5 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากปี 2548 สำหรับในปี 2550 คาดการณ์ว่า หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดมากระทบแล้วจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8 เป็น 2.7 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปี 2549
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ที่ลุกลามขยายขอบเขตมายังพื้นที่ในจังหวัดสงขลาถี่ขึ้น โดยล่าสุด คือ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งอยู่ในช่วงฉลองเทศกาลตรุษจีน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ซึ่งสามารถพิจารณาผลกระทบได้เป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 : สถานการณ์คลี่คลายลงได้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2550 : หาดใหญ่จะสูญเสียรายได้ท่องเที่ยวประมาณ 800 ล้านบาท
หากเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบให้คลี่คลายลงได้โดยเร็ว ส่งผลให้การท่องเที่ยวหาดใหญ่สามารถปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นได้ภายในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2550 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนสามารถเรียกความมั่นใจด้านความปลอดภัยจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติกลับคืนมาได้โดยเร็วแล้ว การท่องเที่ยวหาดใหญ่มีแนวโน้มได้จะรับผลกระทบเฉพาะในช่วงที่เหลือของไตรมาสแรกปี 2550 โดย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 25 หรือประมาณ 150,000 คน จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550 ประมาณ 6 แสนคน ส่งผลให้หาดใหญ่สูญเสียเม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท
กรณีที่ 2 : สถานการณ์คลี่คลายลงได้ในช่วงไตรมาสที่สองปี 2550 : หาดใหญ่จะสูญเสียรายได้ท่องเที่ยว ประมาณ 1,900 ล้านบาท
หากสถานการณ์ความไม่สงบใน 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างยังยืดเยื้อ โดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถคลี่คลายลงสู่ภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาสที่สอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการท่องเที่ยวโดยรวมของหาดใหญ่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 โดย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่มีแนวโน้มถดถอยต่อเนื่องมาในช่วงไตรมาสที่สอง ส่งผลให้โดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 27 หรือ 350,000 คน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ประมาณ 1,300,000 คนในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 ทำให้หาดใหญ่สูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,900 ล้านบาท
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น