ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า นอกเหนือจากความแตกต่างในเรื่องของรายได้ของผู้บริโภคที่มีผลต่อการทำการตลาดของผู้ประกอบการแล้ว การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มผู้บริโภคจากความแตกต่างของช่วงวัย (Generation Gap) ที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ (Elderly) กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen ME) ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนรวมกันกว่าร้อยละ 46 ของประชากรไทยทั้งหมดในปี 2568 และการใช้จ่ายของแต่ละกลุ่มน่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การใช้จ่ายของกลุ่มผู้สูงอายุน่าจะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.6 ต่อปี (CAGR 2560-2568) หรือราว 350,000 บาทต่อคนต่อปีในปี 2568 ซึ่งสูงกว่าการใช้จ่ายของกลุ่มคน Gen ME ที่คาดว่าค่าใช้จ่ายจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.2 ต่อปี (CAGR 2560-2568) หรือราว 323,000 บาทต่อคนต่อปีในปี 2568 โดยค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น
หากพิจารณาถึงแนวโน้มความต้องการสินค้าและบริการที่สามารถตอบพฤติกรรมของผู้บริโภคในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่ม น่าจะให้ความสำคัญกับคุณค่าของสินค้าและบริการที่จะตอบโจทย์ในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือไปจากความคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ลักษณะหรือรูปแบบการเลือกซื้อสินค้าและการใช้บริการอาจจะแตกต่างกันตามปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น กำลังซื้อ ไลฟ์สไตล์ การเข้าถึงเทคโนโลยี เป็นต้น ดังนั้น มองไปข้างหน้า การเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพของแต่ละธุรกิจ อาจจะไม่สามารถทำการตลาดแบบเป็นวงกว้างได้เหมือนอดีต และยิ่งถ้าหนึ่งในครอบครัวประกอบไปด้วยสมาชิกที่หลากหลายเจเนอเรชั่นที่ใช้บริการพร้อมกัน ก็จะยิ่งเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการที่จะต้องปรับรูปแบบของสินค้าและบริการให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่น ธุรกิจที่อยู่อาศัยหรือธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งมักจะพบลูกค้าเข้ามาใช้บริการพร้อมกันเป็นครอบครัวที่มีหลายเจเนอเรชั่น ผู้ประกอบการควรมีรูปแบบหรือแพ็คเกจที่หลากหลายเพื่อรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และไม่ใช่แค่การตอบโจทย์ในระดับกลุ่มเจเนอเรชั่นเท่านั้น แต่นั่นหมายถึงการตอบโจทย์ลูกค้าในระดับที่เฉพาะเจาะจงเป็นกลุ่มย่อยหรือรายบุคคล (Personalization) ตลอดจนการเข้าไปอยู่ในทุกช่องทางที่ลูกค้าสามารถค้นเจอเมื่อมีความต้องการ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น