Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 มีนาคม 2566

เกษตรกรรม

ราคาข้าวและมันสำปะหลังของไทยปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้น ตามแรงหนุนด้านอุปสงค์จากจีนเปิดประเทศ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3391)

คะแนนเฉลี่ย

        ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ราคาสินค้าเกษตรหลักของไทยในปี 2566 คงได้รับแรงหนุนจากจีนเปิดประเทศ ดันความต้องการและช่วยพยุงราคาได้ระดับหนึ่ง ซึ่งคงชดเชยแรงฉุดด้านราคาจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยมีทั้งกลุ่มที่ราคาปรับขึ้นและลดลงปะปนกันไปตามแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรโลก โดยสินค้าเกษตรในกลุ่มที่น่าจะมีราคาปรับขึ้นจากปีก่อน คือ ข้าวและมันสำปะหลัง โดยมีอุปสงค์ผลักจากจีนเปิดประเทศและ Food Security ดันราคาข้าวในปี 2566 อยู่ที่ 11,100 บาทต่อตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 และราคามันสำปะหลังอยู่ที่ 3 บาทต่อกก.หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 ขณะที่กลุ่มที่อาจมีราคาปรับลดลงจากปีก่อน โดยถูกฉุดจากอุปทาน เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับสูงท่ามกลางสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย แต่ก็ยังเป็นระดับราคาที่ค่อนข้างสูง คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อย โดยคาดว่าในปี 2566 ราคายางพาราอยู่ที่ 45 บาทต่อกก.หรือลดลงร้อยละ 13.0 ราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 5.4 บาทต่อกก.หรือลดลงร้อยละ 31.1 และราคาอ้อยอยู่ที่ 1,000 บาทต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 3.3

        ทั้งนี้ ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับสูงและความไม่แน่นอนด้านอุปทาน เช่น ปริมาณสต็อกธัญพืชโลกที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ มาตรการจำกัดการส่งออกโดยหลายประเทศ โรคระบาดในพืช และต้นทุนการผลิตที่ผันผวนสูง ตลอดจนการรับมือกับประเด็นความยั่งยืนที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดคู่ค้ากลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา ล้วนอาจกระทบต่อธุรกิจปลายน้ำที่ใช้พืชเกษตรเป็นวัตถุดิบให้เผชิญความท้าทาย ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องวางแผนบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง เช่น การบริหารจัดการต้นทุนการผลิตหรือบริหารสต็อกในแต่ละช่วงเวลา การจัดหาแหล่งวัตถุดิบราคาถูกหรือแหล่งผลิตที่มีวัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ และอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบทดแทนอื่น ในจังหวะที่วัตถุดิบหลักค่อนข้างตึงตัว

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม