Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 สิงหาคม 2564

บริการ

ตลาดอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ ปี ‘64 ไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท …คาดเติบโตต่อเนื่องตามแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3252)

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุในไทย ปี 2564 จะอยู่ที่ 8,000 – 9,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบได้เฉลี่ย 7.8% ต่อปี ในระยะ 5 ปีข้างหน้า สอดคล้องกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย โดยสัดส่วนมูลค่าตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นเม็ดเงินในภาคธุรกิจ (B2B) เป็นหลัก โดยเฉพาะความต้องการใช้งานในธุรกิจ Non-hospital อาทิ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เนิร์สซิ่งโฮม และที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ นอกจากนี้ สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุบางส่วนต้องพักรักษาตัวที่บ้าน ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อมีความต้องการอุปกรณ์มากขึ้นในระยะนี้ด้วย

โดยตลาดอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่จะได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันรักษาเบื้องต้น เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด เครื่องวัดออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะ เป็นต้น และ 2) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เช่น เตียง รถเข็น ราวจับช่วยพยุง พื้นกันลื่นลดแรงกระแทก ทางลาด ลิฟท์ยกรถเข็น และอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์เซนเซอร์แจ้งเตือนการหกล้ม เป็นต้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในระยะข้างหน้า กลุ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เช่น รถเข็นไฟฟ้า เตียงไฟฟ้า อุปกรณ์เซ็นเซอร์ ปุ่มกดขอความช่วยเหลือฉุกเฉินแบบเรียลไทม์ จะเป็นกลุ่มอุปกรณ์ที่น่าจะเติบโตได้ดี เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อเพียงพอและต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันมากขึ้น

อย่างไรก็ดี สินค้าทั้งในกลุ่มอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ผลิตได้ในไทยอาจยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในประเทศได้ทั้งหมด และส่วนใหญ่ยังเป็นอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานและใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย ทำให้ในระยะแรกผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศน่าจะได้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตในประเทศจะต้องยกระดับการผลิตไปสู่อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แต่อาจยังไม่ซับซ้อนมากนักเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ในระยะข้างหน้า โดยกลุ่มสินค้าที่น่าจะมีศักยภาพในการผลิต เช่น เตียงไฟฟ้า รถเข็นไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการพัฒนามาตรฐานสินค้า ราคาที่เข้าถึงได้ และการทำตลาด ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ​​

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


บริการ