จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองในฮ่องกงที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุดเมื่อวันที่ 9-12 สิงหาคม 2562 การชุมนุมได้ยกระดับขึ้นมาสู่การปิดสนามบินนานาชาติฮ่องกงและก่อให้เกิดการยกเลิกไฟล์ทการบิน สะท้อนถึงสถานการณ์ที่ขยายวงมากขึ้นตามลำดับ โดยแม้ว่าในวันที่ 13 สิงหาคม 2562 สนามบินฮ่องกงจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าสถานการณ์ในช่วงข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของฮ่องกงแล้ว ยังเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวฮ่องกงที่ต้องการเดินทางไปยังต่างประเทศรวมถึงมายังประเทศไทยด้วย
และเนื่องจากในช่วงเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวฮ่องกงนิยมเดินทางมาเที่ยวยังประเทศไทยมากที่สุดในรอบปี เพราะเป็นช่วงปิดภาคการศึกษา โดยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวฮ่องกงเที่ยวไทยเฉลี่ย 4,200-5,000 คน/วัน ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานเหตุชุมนุมที่ส่งผลกระทบให้เกิดการปิดสนามบินฮ่องกงกินเวลาประมาณ 7 วัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินในเบื้องต้นว่า อาจจะสร้างผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวฮ่องกงเที่ยวไทยราว 30,000 คน คิดเป็นเม็ดเงินรายได้ที่อาจสูญเสียไปราว 1,400 ล้านบาท โดยตัวเลขผลกระทบข้างต้น เป็นการประเมินขั้นต่ำที่ยังไม่นับรวมผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่ใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านหรือจุดแวะเปลี่ยนเครื่อง (Transit) เพราะมองว่านักท่องเที่ยวดังกล่าวน่าจะสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเดินทาง ทั้งเส้นทางการบินที่เลี่ยงไม่ผ่านฮ่องกง หรือแม้กระทั่งเลือกจังหวะการเดินทางเป็นช่วงเวลาอื่นแทนได้ในภายหลัง
ดังนั้น นอกจากการติดตามข่าวความคืบหน้าของเหตุการณ์ต่างๆ ในฮ่องกงแล้ว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางการไทยคงต้องพิจารณาแนวทางการให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวชาติต่างๆ ที่ต้องการเดินทางมายังประเทศไทยโดยการหลีกเลี่ยงการแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ทั้งการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินตรงและการแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่นแทน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวนั้นๆ ให้สามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้อย่างราบรื่น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น