แม้ว่าภัยแล้งที่ต่อเนื่องยาวนานจนถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณผลผลิตข้าวและอ้อยในช่วงครึ่งปีแรกให้ลดลงร้อยละ 4.2 และ 2.9 (YoY) ตามลำดับ แต่ปริมาณผลผลิตภาคเกษตรรวมยังคงเติบโตเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.4 (YoY) ส่งผลให้ภาพรวมรายได้เกษตรกรครึ่งปีแรกเติบโตที่ร้อยละ 1.1 (YoY)
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ภาครัฐได้มีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพืชเกษตร
ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร โดยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2562/2563 รอบที่ 1 และโครงการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มน้ำมัน 2562/2563 นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมนำเสนอโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางต่อคณะรัฐมนตรีในลำดับถัดไป ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการประกันรายได้เกษตรกรสำหรับสินค้าเกษตรชนิดอื่นออกมาเพิ่มเติม
จากสถานการณ์ปริมาณผลผลิตข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณผลผลิตสินค้าชนิดอื่น เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตภาคเกษตรทั้งปี 2562 น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.2 (YoY)ประกอบกับผลของโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมันจะเริ่มมีเม็ดเงินถึงมือเกษตรกรในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจะผลักดันรายได้เกษตรกรทั้งปีให้เร่งตัวขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า รายได้เกษตรกรทั้งปี 2562 จะเติบโตในช่วงร้อยละ 3.5 – 3.8 (YoY) สูงกว่ากรณีไม่มีโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งคาดว่ารายได้เกษตรกรทั้งปีจะเติบโตในช่วงร้อยละ 1.8 – 2.2 (YoY) อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ซึ่งหากยืดเยื้อยาวนานและมีจำนวนพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้รายได้เกษตรกรเติบโตได้น้อยกว่ากรอบล่างของประมาณการ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะประเมินผลกระทบเป็นระยะต่อไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น