ทิศทางของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2563 มีโจทย์ที่ยากขึ้นทั้งในด้านของการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงยังคงอยู่และมีความท้าทายมากขึ้น อาทิ บรรยากาศเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่เอื้อ มีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของโลกที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้เมื่อการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกชะลอตัวลงทำให้อุณหภูมิการแข่งขันกันดึงดูดนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะยิ่งมีมากขึ้น กอปรกับในปี 2563 จะมีการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลก 2 รายการ คือ การจัดงานมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างมหกรรมกีฬาฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป 2020 (EURO 2020) และกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ซึ่งอาจจะมีผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปและญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และทิศทางราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2563 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมีจำนวนประมาณ 40.5-40.9 ล้านคน ขยายตัวประมาณ 2.0%-3.0% เป็นอัตราการเติบโตต่ำสุดในรอบ 6 ปี และจะเป็นการเติบโตเฉพาะบางตลาด โดยหลักจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะใกล้อย่างภูมิภาคเอเชีย ขณะที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ เช่น ยุโรป โอเชียเนียและตะวันออกกลาง ยังมีแนวโน้มที่ปรับลดลง
สำหรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้อ กอปรกับเทรนด์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ มากกว่าการซื้อสินค้า การแข่งขันธุรกิจที่พัก วันพักที่สั้นลง รวมถึงนักท่องเที่ยวหลักส่วนใหญ่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ ซึ่งมีผลทำให้การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.97 – 1.99 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4% - 2.5% จากปี 2562
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจบริการท่องเที่ยวคงจะเผชิญโจทย์การทำตลาดการท่องเที่ยวที่ยากขึ้น การบริหารจัดการต้นทุน ซึ่งต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงสงครามราคาที่จะเกิดขึ้น โดยอาจหันมาเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวตามเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมในด้านการตลาด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น