Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 กรกฎาคม 2551

เศรษฐกิจต่างประเทศ

มาตรการช่วยเหลือตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ...ยังคงเป็นเพียงจุดเริ่มต้น (มองเศรษฐกิจฉบับที่ (2233)

คะแนนเฉลี่ย

ตลาดการเงินที่กำลังเผชิญกับภาวะความปั่นป่วนจากวิกฤตสินเชื่อในปัจจุบันได้พบกับข่าวดีอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฏหมายช่วยเหลือตลาดที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม แรงหนุนดังกล่าวได้จางหายไปในช่วงเวลาข้ามคืน หลังจากความอ่อนแอในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ถูกตอกย้ำด้วยตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีในเดือนมิถุนายน สำหรับความคืบหน้าของร่างกฎหมายดังกล่าว ขณะนี้กำลังถูกส่งให้วุฒิสภาพิจารณา และคาดว่า ทำเนียบขาวและประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จะลงนามอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวในท้ายที่สุด ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวถูกคาดหวังว่าจะสามารถช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาความอ่อนแอและการขาดทุนจำนวนมากของบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินในสหรัฐฯ

ในร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ครอบคลุมหลายประเด็นที่สำคัญ ที่อาจมีบทบาทในการช่วยบรรเทาผลกระทบทางลบที่เกิดจากภาวะถดถอยในตลาดที่อยู่อาศัย ได้แก่ การลดหย่อนทางภาษีสำหรับการซื้อบ้าน การเพิ่มเพดานวงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับการค้ำประกันโดยแฟนนี เม เฟรดดี แมค และสำนักงานการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ การอนุญาตให้สำนักงานการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ปล่อยวงเงินเพื่อช่วยในการรีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่กำลังเผชิญกับกระบวนการยึดทรัพย์จำนอง การให้เงินช่วยเหลือแก่ชุมชน/เมือง/รัฐ เพื่อใช้ในการปรับปรุงบ้านที่ถูกยึดจำนอง ตลอดจนการเพิ่มเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลมีความคล่องตัวมากขึ้นในการใช้นโยบายการคลังแบบขาดดุล นอกจากนี้ ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้รวมเอามาตรการที่ช่วยเสริมสรางความแข็งแกร่งให้กับเสาหลักของตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยจัดตั้งหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบแห่งใหม่สำหรับแฟนนี เม และเฟรดดี แมค และมาตรการที่ช่วยป้องกันการเดินตามรอยเดิมที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยขาดความรับผิดชอบ โดยได้จัดตั้งระบบการออกใบอนุญาตเป็นครั้งแรกสำหรับนายหน้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย และเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคาร

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองต่อประเด็นร่างกฏหมายช่วยเหลือตลาดที่อยู่อาศัยว่า มาตรการที่บรรจุรวมอยู่ในร่างกฎหมายช่วยเหลือตลาดที่อยู่อาศัยนี้ อาจนับเป็นมาตรการที่สะท้อนถึงการดำเนินการอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาในตลาดสินเชื่อ ซึ่งในขณะนี้ได้ลุกลามเป็นวงกว้างกระทบต่อเนื่องไปยังฐานะทางการเงินของสถาบันการเงินสหรัฐฯ แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงประเมินว่า ร่างกฏหมายดังกล่าวนี้เป็นเพียงมาตรการขั้นเริ่มแรกในการเยียวยาปัญหาความไร้เสถียรภาพในตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจช่วยได้เพียงแค่ชะลอภาวะการถดถอยไม่ให้เลวร้ายลงไปอีกอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ คาดว่าสถานการณ์ของตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบันยังคงไม่ผ่านพ้นจุดต่ำสุด เนื่องจากปัจจัยที่จะเอื้อต่อการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงขาดความชัดเจน โดยเฉพาะหากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้คาดได้ว่า ทางการสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับโจทย์ในการเสริมสร้างเสถียรภาพตลาดที่อยู่อาศัยต่อไปอย่างน้อยก็ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ ภาระทางการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็อาจเพิ่มสูงขึ้นไปจนชนเพดานการก่อหนี้ใหม่ โดยมีความเป็นไปได้ว่าภาระที่เกิดขึ้นจากความสูญเสียจริง และจำนวนเงินที่ต้องให้ความช่วยเหลือแก่แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจจะสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้น ณ ขณะนี้ ของสำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรสที่ 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ