ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่จากเม็กซิโกหรือไข้หวัดเม็กซิโกกำลังเป็นปัญหาฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับนานาชาติ มีศักยภาพที่จะระบาดไปทั่วโลก ดังนั้นองค์การอนามัยโลกออกประกาศเตือนทั่วโลกระวังไข้หวัดเม็กซิโกระบาด โดยให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและรายงานให้องค์การอนามัยโลกทราบ ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกยกระดับการแพร่ระบาดจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ซึ่งหมายถึงการแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น กล่าวคือ ในระดับ 3 เป็นการแพร่ระบาดในสัตว์ และคนในวงจำกัด ส่วนระดับ 4 เป็นระดับการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอกาสการแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้น
ประเทศไทยเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับนานาประเทศ โดยการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ คือ การเร่งทำความเข้าใจที่ถูกต้องถึงการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้เพื่อลดความกังวลของผู้บริโภคที่อาจนำไปสู่การงดการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งเป็นการสร้างความลำบากให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจสุกรที่ปัจจุบันเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสุกรอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้ราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และทำให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆทดแทน
อย่างไรก็ตาม ไทยอาจได้รับอานิสงส์บ้างจากกรณีที่หลายประเทศระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดญี่ปุ่น แต่อานิสงส์ที่จะได้รับนั้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของคนญี่ปุ่น โดยในกรณีที่คนญี่ปุ่นยังเลือกที่จะบริโภคเนื้อสุกรต่อไปก็เป็นโอกาสส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปไปยังตลาดญี่ปุ่น แต่ผู้ประกอบการที่จะได้อานิสงส์นั้นจะเป็นผู้ส่งออกที่ผ่านการตรวจสอบทางด้านสุขอนามัยจากญี่ปุ่น และเป็นผู้ส่งออกที่ส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว เนื่องจากคนญี่ปุ่นรู้จักและยอมรับในตรายี่ห้อแล้ว ขณะที่ประเด็นข้อจำกัดคือ การขยายปริมาณการผลิตอาจจะไม่ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น สำหรับอีกกรณีที่คนญี่ปุ่นไม่เชื่อมั่นที่จะบริโภคเนื้อหมู
รวมทั้งมีแนวโน้มว่าราคาเนื้อหมูในญี่ปุ่นมีแนวโน้มแพงขึ้น คนญี่ปุ่นอาจหันไปบริโภคเนื้อไก่หรือผลิตภัณฑ์จากเนื้อปลาทดแทนเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งผู้ส่งออกเนื้อไก่แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากเนื้อปลาจากไทยก็จะได้อานิสงส์นี้ไป ซึ่งไทยก็ครองตลาดเนื้อไก่แปรรูปและเนื้อปลาบดเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอยู่แล้ว เท่ากับว่าเนื้อไก่แปรรูปและเนื้อปลาบดของไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับของคนญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาประเด็นในด้านการผลิตและวัตถุดิบจะพบว่า การขยายการเลี้ยงไก่นั้นน่าจะใช้เวลาที่สั้น ในขณะที่ผลิตภัณฑ์จากปลาอาจมีประเด็นในเรื่องวัตถุดิบที่ไทยต้องนำเข้า นอกเหนือไปจากปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดญี่ปุ่น ดังนั้นคาดว่าผู้ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดเม็กซิโกนี้น่าจะเป็นผู้เลี้ยงและผู้ส่งออกไก่ของไทย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น