Display mode (Doesn't show in master page preview)

26 เมษายน 2553

เศรษฐกิจต่างประเทศ

ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หนุนเศรษฐกิจรัสเซียปี 2553...ขับเคลื่อนส่งออกไทยไปรัสเซียไตรมาสแรกขยายตัว 35.7% (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2812)

คะแนนเฉลี่ย

รัสเซียเป็นประเทศหนึ่งในกลุ่ม BRICs ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก เศรษฐกิจรัสเซียในปี 2552 ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกจึงหดตัวค่อนข้างมากร้อยละ 7.9 แต่ในปี 2553 ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นน่าจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจรัสเซียกลับมาขยายตัว เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก มีมูลค่าการส่งออกน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 60 ของการส่งออกทั้งหมดของรัสเซีย ส่งผลให้รายได้ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจรัสเซียให้เติบโตและส่งผลทางอ้อมต่อความต้องการบริโภคสินค้าจากไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ในปี 2553 เศรษฐกิจรัสเซียมีแนวโน้มขยายตัวค่อนข้างมากเนื่องจากฐานเปรียบเทียบในปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับต่ำโดยไตรมาส 1/2553 รัฐบาลรัสเซียคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และขยายตัวเร่งขึ้นเป็นร้อยละ 8.3 ในไตรมาส 2/2553 ส่งผลให้เศรษฐกิจรัสเซียในปี 2553 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.3 การขยายตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าวมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันในช่วงครึ่งหลังของปีที่รัฐบาลรัสเซียคาดว่าจะปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าราคาน้ำมันดิบในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 78-88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นส่งผลต่อรายได้จากน้ำมันปรับตัวเพิ่มจากสัดส่วนร้อยละ 25 ของ GDP เป็นสัดส่วนร้อยละ 45 ของ GDP ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัสเซียให้เติบโตได้มากขึ้น ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจรัสเซียเพิ่มโอกาสให้สินค้าส่งออกของไทยไปรัสเซียให้ขยายตัวตามไปด้วย ประกอบกับฐานการส่งออกของไทยไปรัสเซียในปัจจุบันที่มีมูลค่าค่อนข้างน้อยราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2552 คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 1 ของการส่งออกทั้งหมดของไทยไปยังตลาดโลก จึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยการส่งออกของไทยไปรัสเซียไตรมาส 1/2553 ขยายตัวร้อยละ 35.7(YoY) สินค้าหลายรายการขยายตัวสูง โดยเฉพาะรถยนต์ ผลไม้กระป๋อง/แปรรูป อาหารทะเลกระป๋อง/แปรรูป เหล็ก/ผลิตภัณฑ์ รองเท้า/ชิ้นส่วน และเตาอบไมโครเวฟ เป็นต้น แม้ว่าสินค้าบางรายการยังฟื้นตัวไม่เต็มที่แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของรัสเซียจะส่งผลให้สินค้าไทยมีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ข้าว เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรกล และเม็ดพลาสติก เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการส่งสินค้าไทยไปขายในรัสเซียต้องพิจารณาเส้นทางขนส่งสินค้าเพื่อลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มความสามารถการแข่งขันด้านราคาสินค้าของไทยในรัสเซีย ซึ่งการเลือกแหล่งตลาดเพื่อนำสินค้าไทยเข้าไปขายในรัสเซียจะช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทยให้สอดคล้องกับความต้องการมากยิ่งขึ้น รัสเซียฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะกรุงมอสโกและนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่มีรายได้ค่อนข้างสูงสินค้าไทยหลายรายการมีโอกาสขยายตลาดได้แต่ควรเน้นที่คุณภาพ สำหรับรัสเซียฝั่งตะวันออกมีระดับรายได้ไม่สูงนักควรขายสินค้าจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค นอกจากนี้สินค้าไทยอาจต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้าราคาถูกของจีนซึ่งไทยอาจเสียเปรียบทั้งค่าขนส่งที่สูงกว่าเนื่องจากอยู่ห่างไกลกว่าและราคาสินค้าที่สูงกว่า ขณะเดียวกันต้องแข่งขันด้านคุณภาพกับสินค้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่มีความได้เปรียบด้านระยะทางขนส่งที่ใกล้กว่า นอกจากนี้การส่งออกของไทยไปรัสเซียส่วนใหญ่จะเป็นการค้าผ่านผู้นำเข้ารัสเซียที่เป็นธุรกิจ SMEs ซึ่งอาจต้องเสี่ยงกับความน่าเชื่อถือของผู้นำเข้าและการชำระเงินอีกด้วย การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้นำเข้าและการศึกษาระบบการชำระเงินในรัสเซียจึงมีความสำคัญกับการส่งออกไปรัสเซีย และหากรัฐบาลไทยเข้าไปจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในรัสเซียน่าจะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าส่งออกไทยได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่สินค้าไทยยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนักในรัสเซีย

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ