ปัญหาการคลังสหรัฐฯ น่าจะยังคงกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนโลกในช่วงข้างหน้า (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 3085)

S&P ประกาศปรับลดแนวโน้มของอันดับความน่าเชื่อถือ ‘AAA' ของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็น ‘เชิงลบ' จาก ‘มีเสถียรภาพ' ซึ่งส่งผลทำให้สถานะของอันดับเครดิตของสหรัฐฯ ณ เวลานี้ อ่อนแอกว่าประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่ม ‘AAA' โดย S&P กล่าวเตือนว่า มีความเป็นไปได้ประมาณ 1 ใน 3 ที่จะมีการปรับทบทวนอันดับเครดิตสหรัฐฯ ลงในอีก 2 ปีข้างหน้า หากทางการสหรัฐฯ ยังไม่สามารถผลักดันแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีความชัดเจนออกมา

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ ค่อนข้างซับซ้อน และเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย อาทิ วามมั่นคงของเส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการต่อรองทางการเมืองระหว่างพรรคเดโมแครตที่เป็นทีมบริหารรัฐบาล และพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ การช่วงชิงกระแสความนิยมระหว่างทั้ง 2 พรรคการเมืองไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีหน้า อาจทำให้ไม่มีพรรคไหนที่มีคะแนนเสียงที่เด็ดขาดเพียงพอในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ตลอดจนมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลังที่ชัดเจนออกมา ดังนั้น การเยียวยาปัญหาของสหรัฐฯ ที่เผชิญกับภาวะการขาดดุลซ้อนกันระหว่างดุลการคลังและดุลบัญชีเดินสะพัด จึงอาจต้องพึ่งพาแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแทน

แม้พื้นฐานทางเศรษฐกิจและการคลังของสหรัฐฯ และไทย ไม่อาจเทียบเคียงกันได้โดยตรง โดยฐานะการคลังและเครื่องชี้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยนั้น มีความแข็งแกร่งกว่าโดยเปรียบเทียบ แต่ปัญหาที่เรื้อรังของภาคการคลังสหรัฐฯ ก็อาจสามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์สำหรับทางการไทยว่า การใช้นโยบายเศรษฐกิจและเครื่องมือทางการคลังเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องมีการขาดดุลงบประมาณเกินกว่าระดับปกติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่รัฐบาลก็ควรจะดูแลกรอบเวลาของการดำเนินมาตรการเหล่านั้น ให้มีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลัง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อเสถียรภาพของประเทศในระยะยาว