ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดค่าเงินหยวน โดยดำเนินการผ่านการปรับวิธีการกำหนดค่ากลางอ้างอิงเงินหยวน/ดอลลาร์ฯ (PBOC Midpoint หรือ Central parity rate) ให้การเสนอราคาของ market maker ในแต่ละวัน สอดคล้องกับระดับปิดตลาดของเงินหยวนในวันทำการก่อนหน้ามากขึ้น ทั้งนี้ ค่ากลางอ้างอิงเงินหยวนที่ PBOC ประกาศในช่วงเช้าวันที่ 11 ส.ค. 2558 อยู่ที่ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงประมาณ 1.82% จากค่ากลางอ้างอิงที่ 6.1162 หยวนต่อดอลลาร์ฯ ในวันทำการก่อนหน้า โดย PBOC ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็น "One-time Correction" เพื่อให้การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงหลังจากนี้เป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงรอดูว่า ความเคลื่อนไหวของเงินหยวนในช่วงหลังจากนี้ จะเกาะกลุ่มไปกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคได้มากน้อยเพียงไร ขณะที่ ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลของจีน ก็น่าจะยังคงเป็นปัจจัยที่ชะลอกรอบการอ่อนค่าของเงินหยวนไว้ ตราบใดที่ทางการจีนยังไม่เปิดให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี สำหรับผลกระทบต่อไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า เงินหยวนที่ถูกปรับให้อ่อนค่าลงนั้น น่าจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะมีผลกระทบต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวและการส่งออกระหว่างไทย-จีน เนื่องจากเงินหยวนและเงินบาทต่างก็อ่อนค่าไปพร้อมกัน นอกจากนี้ การหดตัวของการส่งออกสินค้าไทยไปจีน น่าจะมีสาเหตุสำคัญมาจากเรื่องราคาสินค้าส่งออกในหลายๆ หมวดที่ไทยส่งออกไปจีนได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก รวมถึงสต็อกสินค้าของจีนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการจีนยังคงชะลอการนำเข้าจากไทย
มองไปในระยะข้างหน้า คาดว่า PBOC น่าจะทยอยปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเป็นลำดับท่ามกลางโมเมนตัมเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ โดยคงจะต้องเข้าดูแลการเคลื่อนไหวของเงินหยวนเป็นระยะเพื่อสกัดการเก็งกำไรและลดโอกาสความเสี่ยงของภาวะเงินทุนไหลออก ทั้งนี้ คงต้องยอมรับว่า ความผันผวนของสกุลเงินเอเชียอาจเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เพราะนอกจากจะมีตัวแปรเรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และทิศทางเงินหยวนของจีนแล้ว ยังมีเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โดยเฉพาะมาเลเซีย และอินโดนีเซีย) ที่ยังฟื้นตัวล่าช้า และมีฐานะดุลต่างประเทศและระดับทุนสำรองฯ ที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น