ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในภาวะซบเซา กอปรกับราคาน้ำมันโลกที่มีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก และยังเป็นคู่ค้าที่สำคัญของหลายประเทศในอาเซียนกำลังอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ได้ส่งผลกระทบให้หลายประเทศในอาเซียนที่มีการค้ากับจีนเป็นหลัก และมีสัดส่วนการส่งออกอย่างน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆที่ค่อนข้างสูง เช่น ไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ มีมูลค่าการส่งออกชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามกลับเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยล่าสุดในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกราว 91.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 (YoY)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าปัจจัยที่ส่งผลให้ภาคการส่งออกของเวียดนามสามารถขยายตัวได้ดีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของเวียดนามเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความต้องการจากตลาดโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน กอปรกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของเวียดนาม ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ภาคการส่งออกของเวียดนามที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันนี้ ยังเป็นผลมาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก โดยอาศัยค่าแรงที่ยังคงถูกและสิทธิพิเศษทางภาษีอากร (GSP) ที่เวียดนามได้รับจากประเทศผู้บริโภคอันดับต้นๆของโลก อีกทั้ง การเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership) พร้อมทั้งการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement) กับสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้ในปีนี้ ก็ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของเวียดนามในการเป็นประเทศปลายทางการลงทุนเพื่อการส่งออกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้คงจะส่งผลให้ภาคการส่งออกของเวียดนามสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ดีในอนาคตข้างหน้า
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น