จับตาการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของกัมพูชาที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ภายใต้ยุทธศาสตร์ Thailand+1 (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 2756)

ภายใต้ข้อจำกัดที่มากขึ้นสำหรับการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นสินค้าที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกัมพูชา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทางการกัมพูชาจำเป็นต้องเพิ่มความหลากหลายให้กับภาคการส่งออกและยกระดับภาคการผลิต ผ่านการดึงดูด FDI ในสาขาการผลิตอื่นๆ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ควบคู่ไปกับการผลักดันให้ภาคการผลิตของกัมพูชามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายการผลิตภายในภูมิภาค และดึงแรงงานส่วนเกินในภาคเกษตร ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ เข้ามาพัฒนาทักษะ เพื่อให้พร้อมรองรับกับความต้องการของตลาดและภาคการผลิตที่กำลังขยายตัว

อนึ่ง การดำเนินการดังกล่าวนี้ คงทำให้ภาคการส่งออกของกัมพูชามีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่าในปี 2568 สัดส่วนการส่งออกสินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงจักรยานและชิ้นส่วนยานยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 และร้อยละ 14 จากเพียงร้อยละ 4 และร้อยละ 6 ในปี 2558 ตามลำดับ ในขณะที่ การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะยังมีบทบาทสำคัญต่อภาคการส่งออก และคงเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี การขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ในกัมพูชา ยังคงขึ้นอยู่กับฐานการผลิตยานยนต์ในไทยเป็นหลัก เนื่องจากการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นการโยกย้ายฐานการผลิตบางส่วนที่ใช้แรงงานเข้มข้นจากไทยไปยังกัมพูชาตามยุทธศาสตร์ Thailand+1 เพื่อลดต้นทุนการผลิตตามนโยบายของผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น ทว่า การเกิดขึ้นนี้ คงทำให้ผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องต้องเผชิญกับแรงกดดันในด้านการจัดการต้นทุนที่มากขึ้น ซึ่งเป็นผลให้ต้องมีการปรับตัวหรือพิจารณาย้ายเข้าไปลงทุนในกัมพูชา เพื่อใช้ประโยชน์จากค่าแรงที่ยังถูกกว่าไทย ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่น่าจะทยอยเข้าไปลงทุนในกัมพูชามากขึ้นในอนาคต