เศรษฐกิจจีนในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.4 จากปี 2559 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 6.7 ตามแรงฉุดของการลงทุนภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนที่เริ่มหมดกำลังลง ขณะที่ การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานอื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าในปี 2560 นั้น ทางการจีนคงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในภาคส่วนอื่น โดยเฉพาะภาคการเงินการธนาคารของจีน ซึ่งได้มีบทเรียนจากการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ที่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์และหนี้ภาคครัวเรือนของจีน
อนึ่งโมเมนตัมการค้าระหว่างประเทศของจีนที่เริ่มกลับมาคึกคักในช่วงท้ายของปี 2559 โดยได้อานิสงส์จากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ดูสดใสขึ้น จะเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้การส่งออกของจีนขยายตัวได้ในกรอบ 1.8-4.8 ในปี 2560 ปัจจัยข้างต้นเมื่อผนวกกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจะมีส่วนช่วยให้การส่งออกของไทยไปจีนปี 2560 ขยายตัวได้ร้อยละ 1.6 โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทย อาทิแผงวงจรไฟฟ้า ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ตามการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนที่เริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจจีนจากการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งเน้นการลงทุนของรัฐวิสาหกิจจีนซึ่งลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนต่ำและไม่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือความพยายามของทางการจีนในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมที่ไม่ตอบโจทย์การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว ยังคงเป็นแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนในระยะข้างหน้า ดังนั้น ทางการจีนจำต้องหาจุดสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและฐานะทางการคลัง กับการปฏิรูปภาคเศรษฐกิจจริงในระยะยาวที่จะมาเป็นหัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น