การส่งออกของไทยไปเวียดนามเติบโตอย่างเห็นได้ชัดโดยในปี 2559 ขยายตัวกว่าร้อยละ 5.9 และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ส่งผลให้เวียดนามเป็นตลาดส่งออกที่น่าจับตามองของไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกไทยไปเวียดนามในปี 2560 น่าจะเติบโตต่อเนื่องร้อยละ 5.8 หรือมีมูลค่า 9,979 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แซงหน้ามาเลเซียและกลายเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทยในอาเซียนนับจากปีนี้เป็นต้นไป
ท่ามกลางพัฒนาการทางเศรษฐกิจจากความสามารถในการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เวียดนามยังไม่มีห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมต้นน้ำ-กลางน้ำภายในประเทศที่สามารถรองรับได้ ส่งผลไปยังความต้องการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) ที่เพิ่มขึ้นโดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 37.8 ของการนำเข้าทั้งหมด นอกจากนี้ การนำเข้าสินค้าประเภททุนยังเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น จากการนำเข้าสินค้าขั้นกลางและสินค้าประเภททุนที่มีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของการนำเข้าทั้งหมด น่าจะสะท้อนให้เห็นภาพความต้องการของตลาดเวียดนามในฐานะเป็นประเทศศูนย์กลางการผลิตด้านอุตสาหกรรมที่น่าจับตาของภูมิภาค
เมื่อพิจารณาการส่งออกของไทยไปยังเวียดนามพบว่ามีการเติบโตจากการส่งออกรถยนต์และเครื่องปรับอากาศเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ความสามารถของภาคการผลิตในเวียดนามน่าจะก่อให้เกิดความท้าทายต่อสินค้าบางรายการในอนาคต ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไปยังเวียดนามในระยะ 7 ปี ที่ผ่านมาขยายตัวเฉลี่ยที่ร้อยละ 8.3 ต่อปี ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของการนำเข้าสินค้าของเวียดนามในช่วงเวลาเดียวกันที่ขยายตัวเฉลี่ยที่ร้อยละ 12.8 ดังนั้น จึงเกิดคำถามที่ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ไทยจะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างสินค้าส่งออกไปยังเวียดนามเพื่อตอบสนองโอกาสจากตลาดเวียดนามอย่างแท้จริง โดยเห็นว่าไทยจำเป็นต้องรักษาความสามารถในการส่งออกสินค้าไปยังเวียดนามโดยผ่านกลยุทธ์สำคัญ คือ การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของเวียดนาม โดยการส่งออกสินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเวียดนามที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยไทยควรคว้าโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ไทยมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตอย่างเม็ดพลาสติกและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่าง PCB และ IC นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มดังกล่าวยังเป็นสินค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน ตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นนโยบายที่ผลักดันอุตสาหกรรมแห่งอนาคตซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตสินค้าเพื่อส่งอออก เพื่อเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น