Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 เมษายน 2548

เศรษฐกิจต่างประเทศ

การประชุมผู้นำเอเชีย-แอฟริกา ... ขยายตลาดส่งออก & ลู่ทางลงทุนของไทย

คะแนนเฉลี่ย

พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชียและ แอฟริกา "Asia-Africa Summit" ที่จะจัดขึ้นวันที่ 22-23 เมษายน 2548 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ระหว่าง 2 ภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ส่งเสริมความสัมพันธ์กับแอฟริกา โดยส่งเสริมให้นักธุรกิจไทย "มองไปทางตะวันตก" (Look West) มากยิ่งขึ้น และเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดดุลการค้าของไทยตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 เป็นต้นมา ตลาดแอฟริกาถือว่าเป็นตลาดส่งออกใหม่ของไทยที่มีความสำคัญ เนื่องจากการส่งออกของไทยไปแอฟริกาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกของไทยโดยรวมในปี 2548 ขยายตัว 20% ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้

ไทยมีโอกาสทางการค้า การลงทุนประกอบธุรกิจผลิตสินค้าและบริการในแอฟริกา เพื่อขยายตลาดส่งออกของไทย รวมทั้งเป็นฐานการผลิต และเป็นแหล่งกระจายสินค้าไทยไปภูมิภาคใกล้เคียง ดังนี้
  1. สินค้าส่งออกไทยหลายชนิดมีศักยภาพในตลาดแอฟริกา เนื่องจากการส่งออกขยายตัวได้ดี และมีแนวโน้มที่จะส่งออกได้มากขึ้น ได้แก่ ข้าว แม้ราคาข้าวไทยจะสูงกว่าข้าวของแอฟริกา แต่ก็เป็นที่นิยมของชาวแอฟริกัน เพราะคุณภาพข้าวไทยดี สินค้าส่งออกอื่นๆ ของไทยที่มีแนวโน้มสดใส ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
  2. ไทยสามารถใช้แอฟริกาเป็นประตูการค้า (Gateway) ไปสู่ภูมิภาคอื่นใกล้เคียง ได้แก่ ยุโรป และอเมริกา เช่น ประเทศโมรอคโคมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ สหภาพยุโรป โดยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจากสหภาพยุโรป และได้จัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหรัฐฯ ดังนั้นไทยอาจใช้โมรอคโคเป็นแหล่งผลิตและกระจายสินค้าไทยไปสหภาพยุโรปและอเมริกา เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีดังกล่าว ประกอบกับที่ตั้งของแอฟริกากับภูมิภาค ยุโรปและอเมริกาไม่ห่างไกลกันนักเมื่อเปรียบเทียบกับไทย ทำให้ต้นทุนการขนส่งถูก
  3. ไทยมีโอกาสเข้าไปลงทุนประกอบธุรกิจในแอฟริกา ดังนี้

- อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ได้แก่ การลงทุนสำรวจและผลิตในภาคเหมืองแร่ เพราะแอฟริกาเป็นทวีปที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ทองคำ ปิโตรเลียมที่ยังไม่ได้มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

- ธุรกิจด้านการบริการที่ไทยมีศักยภาพ ได้แก่ ร้านอาหาร ภัตตาคาร บริการนวดแผนไทย สปา เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากยุโรป และอเมริกา เดินทางมาท่องเที่ยวในแอฟริกาจำนวนมากในแต่ละปี เพราะภูมิภาคอยู่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาใต้ที่มีเศรษฐกิจเจริญที่สุดในแอฟริกา

นักธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าไปประกอบธุรกิจในแอฟริกาควรศึกษาตลาดแอฟริกา รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ เป็นอย่างดี และภาครัฐควรเข้ามาช่วยเหลือเพื่อส่งเสริมให้การค้า การลงทุนระหว่างไทยกับแอฟริกาเป็นไปด้วยความสะดวก ไม่มีอุปสรรคด้านกฎระเบียบและ ความไม่แน่นอนของนโยบายทางธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักธุรกิจไทยในการเข้าไปลงทุน/ประกอบธุรกิจในแอฟริกา ทั้งนี้ ข้อควรระวังในการเข้าไปประกอบธุรกิจการค้า & ส่งออกไปแอฟริกา ได้แก่

- เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของประเทศในทวีปแอฟริกาบางประเทศ ความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งอาจกระทบต่อนโยบายทางธุรกิจ

- ระบบการเงินการธนาคารของประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกายังไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกทางการเงิน และระบบการชำระเงินไม่คล่องตัว

- การแข่งขันกับสินค้าส่งออกประเภทเดียวกันของประเทศอื่น เช่น สินค้าจากจีน อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวัน และอาจเสียเปรียบด้านราคากับสินค้าจากจีนและอินเดีย ซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าไทย ดังนั้น สินค้าส่งออกของไทยควรเน้นคุณภาพและเอกลักษณ์ของไทยมากกว่าการแข่งขันด้านราคา

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ