Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 กรกฎาคม 2548

เศรษฐกิจต่างประเทศ

บทเรียนอินโดนีเซีย : ฝ่าวิกฤตพลังงาน

คะแนนเฉลี่ย

อินโดนีเซียเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียที่เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบส่งออก หรือกลุ่มโอเปค แต่ขณะนี้อินโดนีเซียกลับเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำมันดิบและ น้ำมันสำเร็จรูป และผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้อินโดนีเซียจะขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไปแล้ว 29% จนถึงเดือนมีนาคม 2548 แต่ยังไม่ได้ปล่อยราคาน้ำมันลอยตัว โดยยังคงใช้เงินอุดหนุนพยุงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ คาดว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะต้องใช้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศถึงกว่า 10,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เทียบกับในปี 2547 อินโดนีเซียใช้เงินพยุงราคาน้ำมัน 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้งบประมาณภาครัฐขาดดุลมากขึ้น

ผลกระทบน้ำมันแพง

1. ค่าเงินรูเปี๊ยะตกต่ำ - การนำเข้าน้ำมันในภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดุลการค้าของอินโดนีเซียในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 เกินดุลลดลงเป็น 5,408 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 ที่ดุลการค้าเกินดุล 5,939 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เงินทุนสำรองของอินโดนีเซียลดลงมาอยู่ที่ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม 2547 กดดันให้ค่าเงินรูเปี๊ยะของอินโดนีเซียอ่อนค่าลง จนสู่ระดับต่ำสุดที่ 9,800 รูเปี๊ยะต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับว่าอ่อนค่าที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2545 เป็นต้นมา

2. เศรษฐกิจพลาดเป้า - ทางการอินโดนีเซียคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศจะ เติบโตในอัตรา 6% ในปี 2548 เทียบกับอัตราการเติบโต 5.1% ในปี 2547 แต่จากปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปีนี้ไม่ถึงเป้าหมายที่ทางการอินโดนีเซียตั้งไว้

แม้ว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะชะลอตัวลงในปีนี้ แต่ก็ยังคงมีปัจจัยเกื้อหนุนเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยชดเชยกับผลกระทบอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันแพงได้บางส่วน อาทิ

  • การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ - การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 145% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2548 จาก 2,547 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2547 เป็น 6,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากบรรยากาศทางการลงทุนที่ดีขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูโดโยโนเข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2547

  • การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ - ทางการอินโดนีเซียมีนโยบายเพิ่มการลงทุนด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอในประเทศ เช่น ถนน และสะพาน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการจ้างงานและรายได้ในประเทศ

  • การท่องเที่ยวอินโดนีเซีย - หลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิถล่มที่เกาะสุมาตรา ทำให้การท่องเที่ยวของอินโดนีเซียชะลอตัวลงในช่วงแรก แต่ขณะนี้การ ท่องเที่ยวของอินโดนีเซียเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะเกาะบาหลีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวน 700,000 คน เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 เนื่องจากเกาะบาหลีไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การที่ไทยและอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน ดังนั้นเศรษฐกิจอินโดนีเซียที่ชะลอตัวลงจะกระทบต่อไทย ดังนี้

  • การค้าระหว่างไทย-อินโดนีเซีย - อินโดนีเซียนับว่าเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยอันดับที่ 7 ขณะที่ไทยนำเข้าจากอินโดนีเซียมากเป็นอันดับที่ 10 การคาดคะเนว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียมีแนวโน้มชะลอลง อาจส่งผลต่อการส่งออกสินค้าไทยไปอินโดนีเซียให้ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง 2548 ทั้งๆ ที่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2548 อินโดนีเซียเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยการส่งออกของไทยไปอินโดนีเซียขยายตัว 47.1% มีมูลค่า 1,732.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนไทยนำเข้าจากอินโดนีเซียขยายตัวถึง 67.3% มีมูลค่า 1,398.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ากับอินโดนีเซีย 334.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

  • การท่องเที่ยวไทย-อินโดนีเซีย - สถานการณ์ราคาน้ำมันแพงที่ประเทศไทยและ อินโดนีเซียเผชิญอยู่ในขณะนี้ คาดว่าจะบั่นทอนการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับอินโดนีเซียในปีนี้ โดยปรากฏว่า ในเดือนมกราคม 2548 การเดินทางท่องเที่ยวไป-มาระหว่างไทยกับอินโดนีเซียลดลง นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียเดินทางมาไทยมีจำนวน 11,590 คน ลดลง 31.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปอินโดนีเซียมีจำนวน 1,170 คน ลดลง 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547

  • การลงทุนไทย-อินโดนีเซีย - ไทยและอินโดนีเซียมีการลงทุนระหว่างกันค่อนข้างน้อย และคาดการณ์ว่าท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงคงจะไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศการ ลงทุนในต่างประเทศ การลงทุนระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีแนวโน้มชะลอตัวต่อ


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ