Display mode (Doesn't show in master page preview)

13 ตุลาคม 2548

เศรษฐกิจต่างประเทศ

เศรษฐกิจเวียดนาม : สวนทางวิกฤตน้ำมันโลก คว้าแชมป์แห่งอาเซียน

คะแนนเฉลี่ย

ประเทศอาเซียนที่มีเศรษฐกิจโดดเด่นที่สุดในยุคน้ำมันแพง ได้แก่ เวียดนาม ทางการเวียดนามคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตในอัตรา 8.5% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในรอบ 8 ปีของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อเดือนกันยายน 2548 ล่าสุดได้คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราเติบโตในปี 2548 อยู่ในระดับ 7.5% ซึ่งส่งผลให้เวียดนามครองแชมป์เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุดในอาเซียนในปีนี้

ปัจจัยเกื้อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้

1. ส่งออกแจ่มใส การส่งออกของเวียดนามขยายตัว 21% เป็นมูลค่า 23,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรก 2548 เนื่องจากประเทศคู่ค้าสำคัญๆ ของเวียดนาม เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ยินดีต้อนรับสินค้าเวียดนาม รวมทั้งเวียดนามประสบความสำเร็จในการส่งสินค้าออกไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น จีน ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก เป็นต้น สินค้าส่งออกดาวรุ่งของเวียดนาม ได้แก่ น้ำมันดิบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ข้าว เฟอร์นิเจอร์ และอาหารทะเล

2. ท่องเที่ยวบูม เวียดนามเป็นประเทศที่ไม่ค่อยเกิดภัยธรรมชาติรุนแรงนักและสถานการณ์การเมืองภายในประเทศค่อนข้างสงบเรียบร้อย ส่งผลให้เวียดนามเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นแห่งหนึ่งในเอเชีย ผนวกกับทางการเวียดนามได้ยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวอาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยุโรป ฯ ทำให้ชาวต่างชาติเดินทางไปเวียดนามเพิ่มขึ้น 23.3% จำนวน 2.6 ล้านคน ในช่วง 9 เดือนแรก 2548

3. ต่างชาติลงทุนพุ่ง การลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนามเพิ่มขึ้น 37.5% เป็นมูลค่า 4,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรก 2548 เนื่องจากเวียดนามมีความได้เปรียบด้านค่าจ้างแรงงานค่อนข้างถูก อัตราภาษีขาเข้าวัตถุดิบอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งเวียดนามจะอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 49% จากเดิม 30% คาดว่าเวียดนามจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้ราว 4,500-5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้

4. พลังซื้อชาวเวียดนาม คนเวียดนามเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และหันมานิยมซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต ทดแทนการซื้อของกินของใช้ตามตลาดสด เพราะเริ่มตระหนักถึงความปลอดภัยในการบริโภคมากขึ้น จึงเลือกซื้อสินค้าที่สะอาดและมีคุณภาพ คาดว่าในปีนี้การจับจ่ายใช้สอยของชาวเวียดนามจะขยายตัวในระดับเฉลี่ยประมาณ 9-10%

5. การลงทุนภาครัฐ เวียดนามอยู่ในระยะฟื้นฟูประเทศ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคสาธารณูปการต่างๆ ในช่วง 3 ไตรมาสแรก 2548 โครงการก่อสร้างของทางการเวียดนามเพิ่มขึ้น 24% เป็นมูลค่า 7,520 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โครงการก่อสร้างสำคัญของทางการเวียดนามในปีนี้ อาทิ การก่อสร้างถนนระดับมาตรฐานสากล โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า การปรับปรุงท่าเรือ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเวียดนามยังคงมีปัจจัยเสี่ยง ซึ่งควรเร่งคลี่คลาย ได้แก่
  1. เงินเฟ้อ ทางการเวียดนามประมาณการว่าเงินเฟ้อในปี 2548 จะอยู่ในระดับ 7.5% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้น 1% ดัชนีราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากในปีนี้ ได้แก่ ราคาที่อยู่อาศัย วัสดุก่อสร้าง เสื้อผ้าสำเร็จรูป ค่าขนส่ง ค่าเล่าเรียน เป็นต้น
  2. ขาดดุลการค้า เวียดนามขาดดุลเพิ่มขึ้น 15% เป็น 3,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วง 9 เดือนแรก 2548 เนื่องจากเวียดนามนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ประมาณว่ายอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของเวียดนามจะมีสัดส่วนประมาณ 4.7% ของ GDP ในปีนี้ เทียบกับสัดส่วน 3.8% ในปี 2547
  3. ผลผลิตทางการเกษตรลดลง กาแฟและข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนามที่คาดว่าปริมาณผลผลิตมีแนวโน้มลดลงในช่วงฤดูการเพาะปลูกปี 2548/49 อันเนื่องมาจากภาวะฝนแล้งตอนต้นปีและวิกฤตน้ำท่วมฉับพลันในช่วงปลายปี ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกกาแฟและข้าวปี 2549
  4. ไฟฟ้าขาดแคลน ความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าของเวียดนามเพิ่มขึ้นรวดเร็วในอัตราเฉลี่ยประมาณ 16% ต่อปี หากความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าของเวียดนามยังคงขยายตัวในอัตราใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา และเวียดนามยังไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทันกับความต้องการ ก็คาดว่าเวียดนามจะประสบปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในปี 2549-2550 ซึ่งจะกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและธุรกิจบริการทั่วไป รวมทั้งกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศด้วย


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ