- ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในเดือนมิ.ย.65 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยดัชนี KR-ECI ปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 30.8 และ 32.9 จาก 31.2 และ 34.0 ในเดือนพ.ค.65 แม้ว่าครัวเรือนจะมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อภาวะรายได้และการจ้างงาน หลังภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม ทั้งในส่วนของการเริ่มเปิดสถานบันเทิงในจังหวัดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวัง รวมถึงลดเงื่อนไข Thailand Pass เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับระดับราคาสินค้าที่สูงขึ้นสะท้อนจากระดับเงินเฟ้อในเดือนมิ.ย.65 ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปี ยังคงกดดันดัชนีให้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องระดับรายได้และการจ้างงานพบว่ามีครัวเรือนกว่า 41% ที่รายได้และการจ้างงานเริ่มกลับมาสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว ขณะที่อีกกว่า 35% มีรายได้ลดลงจากเดิมเนื่องจากยังมีชั่วโมงการทำงานที่ลดลง นอกจากนี้ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายว่าท่ามกลางระดับราคาสินค้าและพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในหมวดใดที่ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด ซึ่งผลสำรวจระบุว่าครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายในหมวด พลังงาน สาธารณูปโภค และบริการพื้นฐานในชีวิตประจำวันปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด (73%) บ่งชี้ว่าในภาพรวมกำลังซื้อของภาคครัวเรือนยังไม่สามารถกลับมาได้เต็มที่ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจำเป็นมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าภาวะการครองชีพของครัวเรือนยังมีแนวโน้มเปราะบาง แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจะเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดในหลายด้าน แต่ระดับราคาสินค้าจำเป็นและบริการพื้นฐานที่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น ราคาแก๊สหุงต้มที่ทยอยปรับขึ้นราคาหรือการปรับขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะต่าง ๆ จะยังส่งผลให้ครัวเรือนมีความกังวลต่อค่าครองชีพและกดดันกำลังซื้อต่อเนื่อง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น