• ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าปรับดีขึ้นอยู่ที่ 33.9 และ 36.0 จากมาตรการภาครัฐที่ทยอยออกเพื่อมาบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทั้งโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 ที่เลื่อนขึ้นมาเร็วกว่ากำหนดเดิม และการปรับลดภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ ในเดือนก.พ. ที่ผ่านมาระบบ Test&Go ได้เปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง และเป็นช่วงเริ่มโครงการเราเที่ยวกันระยะที่ 4 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในส่วนของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมพบว่าครัวเรือนบางส่วนเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายโดยมีการซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง ปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ระดับราคาสินค้าที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนที่ยังมีภาวะเปราะบางและอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว ทั้งนี้ ผลสำรวจดัชนีฯ ในรอบเดือนก.พ. จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 ก.พ.65 ซึ่งยังไม่ได้เกิดผลกระทบจากการยกระดับของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ130 $/barrel ในช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นรายได้และค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในปัจจุบันพบว่า ครัวเรือน 33.8% ของครัวเรือนที่สำรวจมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งครัวเรือนส่วนมากต้องการรายได้เพิ่มเฉลี่ย 10-20% เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายปัจจุบัน ขณะที่ครัวเรือน 67.5% ไม่มีเงินออม (ครัวเรือนที่รายได้พอดีกับค่าใช้จ่ายและครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย) ทั้งนี้ ความไม่สอดคล้องของรายได้และค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือน
• ในระยะข้างหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่อาจอยู่ในระดับสูงเป็นเวลายาว ซึ่งจะมีผลต่อระดับเงินเฟ้อและภาวะการครองชีพของครัวเรือนในระยะถัดไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น