สงกรานต์ปี 2566 ความกังวลโควิดหมดไป หลายจังหวัดเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบในรอบ 3 ปีกันอย่างคึกคัก จากผลสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพฯ 44.7% มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ (หลักๆ จะเป็นกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน และกลุ่มที่ท่องเที่ยวระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องด้วย) ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีแผนเดินทางมีอยู่ 28.3% ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรที่ติดขัด
โดยกลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมด (88.9%) มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่คนกรุงเทพฯ มีแผนส่วนใหญ่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเล อาทิ พัทยา หัวหิน เกาะช้าง เป็นต้น ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศที่ยังมีสัดส่วนไม่สูง น่าจะมาจากค่าใช้จ่ายการเดินทางต่างประเทศยังสูงเมื่อเทียบกับในช่วงก่อนการระบาดโควิด และเส้นทางการบินที่ยังมีค่อนข้างจำกัด ทำให้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ
สำหรับการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 ของกลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพฯ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5,250 บาทต่อคนต่อทริป ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 8% จากผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนโควิดระบาด มองว่าการปรับเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวมาจากหลายปัจจัย เนื่องจากในปีนี้หลายพื้นที่กลับมาจัดงานประเพณีสงกรานต์กันอย่างคึกคัก รวมถึงภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดงานแสดงดนตรี การออกร้าน เป็นต้น ซึ่งช่วยหนุนให้เกิดการใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยว นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวได้กลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ อีกทั้งสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวลดการทำโปรโมชั่นราคาลง
จากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว รวมถึงผลสำรวจสะท้อนว่ากลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน ระหว่างวันที่ 13-17 เม.ย. 2566 น่าจะมีจำนวน 5.1 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 28.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และประเมินว่าการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 นี้ น่าจะมีมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น