Display mode (Doesn't show in master page preview)

5 สิงหาคม 2562

สถาบันการเงิน

คาด กนง. ยังให้น้ำหนักกับปัจจัยความเสี่ยงเชิงเสถียรภาพในระบบการเงิน ระหว่างรอประเมินปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยหนุนต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3812)

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ในการประชุมครั้งที่ 5 ของปี 2562 ในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 โดยประเด็นเสถียรภาพระยะยาว ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่คณะกรรมการนโยบายการเงินให้น้ำหนักในช่วงนี้ ทั้งนี้คณะกรรมการนโยบายการเงินคงจะเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายมากขึ้นในการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินภายใต้ปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงเชิงเสถียรภาพการเงินจากการเร่งตัวขึ้นของหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่อาจเป็นปัจจัยกดดันศักยภาพของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศใช้มาตรการดูแลความเสี่ยงเฉพาะทาง (Macro และ Micro prudential) อาทิ การกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) ตลอดจน มาตรฐานดูแลคุณภาพสินเชื่อ อาทิ การจำกัดอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Service Coverage Ratio: DSCR) ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ในสิ้นปีนี้ ต้องอาศัยระยะเวลากว่าจะสามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ในการปรับลดปัจจัยเสี่ยงเชิงเสถียรภาพ

มองไปข้างหน้า ปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าคงมีน้ำหนักมากขึ้นในการตัดสินใจนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา แรงฉุดต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปรากฏชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะภาคต่างประเทศอันเป็นผลจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยล่าสุดสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มการเก็บภาษีสินค้าจีนอัตราร้อยละ 10 กับสินค้ากลุ่มที่เหลืออยู่ 3 แสนล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 กันยายน 2562 นอกจากนี้ ประเด็น Brexit อาจจะมีผลต่อความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการนโยบายการเงิน คงรอติดตามผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ภาพรวมของตลาดการเงินที่ผ่อนคลายซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลาง-ยาวปรับลดลง 0.3-0.9% จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลอดจน แรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาทที่ลดลง อันเป็นผลจากมาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยและการส่งสัญญาณของเฟดต่อการปรับนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมรอบกรกฎาคม 2562 ว่าเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยกลางวัฎจักร มิใช่การส่งสัญญาณถึงวัฎจักรอัตราดอกเบี้ยขาลงอาจจะช่วงลดแรงกดดันต่อปัจจัยการแข็งค่าของเงินบาท น่าจะเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

ซึ่งจากภาพของเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงจะประเมินทิศทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยหนุนดังที่กล่าวมาขั้นต้นอย่างรอบคอบโดยหากทิศทางของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีมีแนวโน้มชะลอลงจากครึ่งแรก คงจะเปิดโอกาสให้ กนง. มีการทบทวนความเหมาะสมของการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


สถาบันการเงิน