ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในการประชุม กนง. ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ คณะกรรมการฯ จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อรอดูประสิทธิผลของมาตรการการเงินการคลังที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ ทั้งการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มาตรการช่วยเหลือทางการเงิน เช่น การพักชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น รวมถึงมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ต่อการช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และช่วยประคับประคองภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงสูงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ และกำลังซื้อภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งกนง. คงจะต้องคอยประเมินสถานการณ์ และชั่งน้ำหนักความเสี่ยงด้านต่างๆ รวมถึงประเมินความเพียงพอของมาตรการทางการคลังและมาตรการทางการเงินที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ในการพิจารณานโยบายการเงินในระยะข้างหน้า
โดยสรุป ท่ามกลางความเสี่ยงข้างต้น ธนาคารแห่งประเทศไทยคงพร้อมที่จะใช้เครื่องมือนโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติม หากมีความจำเป็นในระยะข้างหน้า โดยนโยบายทางการเงินแบบ Unconventional เช่น มาตรการเสริมสภาพคล่อง น่าจะเป็นเครื่องมือหลักที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจนำออกมาใช้เพิ่มเติม ในขณะที่ทางเลือกในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายก็ยังอยู่วิสัยที่สามารถทำได้ แม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะยังไม่มีความจำเป็นก็ตาม
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น