Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 พฤศจิกายน 2565

Econ Digest

จับตาค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่ 21 – 25 พ.ย. 2565

คะแนนเฉลี่ย


สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะชะลอขนาดการขึ้นดอกเบี้ย หลังมีสัญญาณว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มชะลอลง อย่างไรก็ดีเงินบาทลดช่วงบวกลงในช่วงต่อมา สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่มีแรงหนุนกลับช่วงสั้นๆ จากตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งยังคงมองว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ย. 2565 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.30-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/65 และข้อมูลการส่งออกเดือนต.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค บันทึกการประชุมเฟด อัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน รวมถึงดัชนี PMI เดือนพ.ย. ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
SET Index ปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ โดยเผชิญแรงกดดันจากบรรยากาศเชิงลบจากประเด็นความผิดปกติของธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทแห่งหนึ่ง ความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศหลังมีขีปนาวุธตกในโปแลนด์ รวมถึงแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและสถาบัน อนึ่ง หุ้นไทยกลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงปลายสัปดาห์ระหว่างรอติดตามตัวเลขจีดีพีไทยที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า
สัปดาห์ที่ 21-25 พ.ย. 2565 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,600 และ 1,585 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,630 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/65 และตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. รวมถึงดัชนี PMI เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ยุโรป อังกฤษ และญี่ปุ่น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น