สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
- เงินบาทอ่อนค่าลงช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายนับถอยหลังสู่วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค นำโดย เงินเยนซึ่งเผชิญแรงขายท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองในญี่ปุ่น สวนทางกับเงินดอลลาร์ฯ ที่ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแข็งค่าในช่วงกลางสัปดาห์โดยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลกเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ โดยทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 33.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นท่ามกลางมุมมองของตลาดที่ประเมินความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ (The Trump Trade)
- สัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 พ.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.50-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (5 พ.ย.) ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด (6-7 พ.ย.) ผลการประชุม BOE (7 พ.ย.) ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ โดยเฉพาะค่าเงินหยวน รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และยูโรโซน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
- หุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างสัปดาห์ แต่กลับมาปิดใกล้เคียงระดับปิดสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้หุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนระหว่างรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด นำโดย กลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งจากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ออกมาน่าผิดหวัง อย่างไรก็ดีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงในเวลาต่อมาซึ่งสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีแรงหนุนหลักๆ จากความหวังต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังกระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าจีดีพีไทยปีหน้าจะโตได้ 3% หุ้นไทยย่อตัวลงเล็กน้อยช่วงท้ายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังระหว่างรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ช่วงปลายสัปดาห์นี้ ตลอดจนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
- สัปดาห์ที่ 4-8 พ.ย. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,450 และ 1,435 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,475 และ 1,490 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การประชุมเฟด (6-7 พ.ย.) การประชุม BOE ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของบจ.ไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค. ของจีน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น