สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
- เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนครึ่งที่ 36.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงกดดันต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ฯ จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด ซึ่งอาจทำให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าหนึ่งครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องสอดคล้องกับการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดและตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือนมิ.ย. ที่ชะลอลงมากกว่าที่คาด หนุนให้ตลาดปรับเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้สำหรับโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC เดือนก.ย. ที่จะถึงนี้ อนึ่ง การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ก็เป็นปัจจัยบวกที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วยเช่นกัน
- สัปดาห์ระหว่างวันที่ 15-19 ก.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.00-36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดท่านอื่น ผลการประชุม ECB รายงาน Beige Book ของเฟด ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของอังกฤษยูโรโซน และญี่ปุ่น
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
- ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคป และการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และกลุ่มเทคโนโลยีจากคาดการณ์เรื่องแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ก่อนจะย่อตัวลงช่วงสั้นๆ ในเวลาต่อมาตามแรงขายลดเสี่ยงระหว่างรอติดตามประเด็นการเมืองในประเทศ รวมถึงแรงขายหุ้นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้ารายใหญ่แห่งหนึ่งจากปัจจัยเฉพาะตัว อย่างไรก็ดีหุ้นไทยขยับขึ้นอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยยังมีแรงซื้อต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและเทคโนโลยีเข้ามาหนุน ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด หลังประธานเฟดระบุว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวและการตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- สัปดาห์ที่ 15-19 ก.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,315 และ 1,300 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,340 และ 1,350 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด การทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ การประชุม ECB ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ของจีน ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น