สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
- เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 33.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะพลิกอ่อนค่ากลับมาช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุน เนื่องจากตลาดประเมินโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุม FOMC เดือนธ.ค.นี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงตามทิศทางเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดว่า ทางการจีนอาจทยอยปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงในปี 2568 เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากมาตรการภาษีการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการร่วงลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB และตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด
- สัปดาห์ระหว่างวันที่ 16-20 ธ.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (18 ธ.ค.) ผลการประชุม FOMC (17-18 ธ.ค.) และ Dot Plot ของเฟด ผลการประชุม BOJ (18-19 ธ.ค.) ผลการประชุม BOE (19 ธ.ค.) การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการ (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ อังกฤษและยูโรโซน ตลอดจนรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
- ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตลอดสัปดาห์ตามแรงขายของต่างชาติ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาดประกอบกับมีวันหยุดในช่วงระหว่างสัปดาห์ อย่างไรก็ดี แม้จะมีประเด็นเกี่ยวกับนโยบายของภาครัฐที่จะผลักดันในปีหน้า แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะประคองให้ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นได้ ทั้งนี้หุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นร่วงลงมากในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเผชิญแรงขายทำกำไร ประกอบกับมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ไทยอาจรับผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคท่ามกลางแรงขายเพื่อลดสถานะการลงทุนที่มีความเสี่ยงระหว่างรอติดตามทิศทางนโยบายการเงินของทั้งไทยและต่างประเทศจากการประชุมเฟดและกนง.ซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า
- สัปดาห์ที่ 16-20 ธ.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,420 และ 1,400 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,445 และ 1,460 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (17-18 ธ.ค.) การประชุมกนง. (18 ธ.ค.) การประชุม BOJ (18-19 ธ.ค.) ผลการประชุม BOE (19 ธ.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนธ.ค. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น